นายกฯ แพทองธารนั่งหัวโต้ะ คกก.ศก.ชุดใหญ่ เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่ครบวงจรเน้น “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้หนี้ปชช. กระตุ้นลงทุน” มั่นใจปีหน้าศก. ไทยกลับคึกคัก

19 พ.ย. 2567 เวลา 22:05 | อ่าน 90
 
นายกฯ แพทองธารนั่งหัวโต้ะ คกก.ศก.ชุดใหญ่ เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่ครบวงจรเน้น “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้หนี้ปชช. กระตุ้นลงทุน” มั่นใจปีหน้าศก. ไทยกลับคึกคัก


วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2567) เวลา 13.00 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน จะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 GDP ขยายตัวที่ 3% ต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 และ 2 ที่ขยายตัว 1.6% และ 2.2% ตามลำดับ โดยเมื่อรวมทั้ง 3 ไตรมาส พบว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 2.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอุปโภคภาครัฐบาล การลงทุนภาครัฐ การส่งออก การบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และภาคก่อสร้างสำหรับตัวเลขของการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยขณะนี้ ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันจะมีศักยภาพเติบโตได้มากกว่านี้ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้น เพื่อผลักดันนโยบายตามที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาเพื่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตเต็มศักยภาพไปพร้อม ๆ กับการดูแลคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งกำหนดแนวทางในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระยะยาว สำหรับระยะสั้นนี้ รัฐบาลจะมุ่งเน้นในการเพิ่มรายได้และบรรเทาค่าครองชีพสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งรัฐบาลได้เริ่มดำเนินการผ่านการอุดหนุนค่าครองชีพสำหรับกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อย และกลุ่มคนพิการ ดังนั้น ในระยะต่อ ๆ ไป ควรพิจารณาความเหมาะสมในการช่วยเหลือแก่กลุ่มอื่น ๆ ต่อไป เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่าภาระหนี้สินประชาชนเป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าในช่วงกลางปี 2567 ระดับหนี้ครัวเรือนต่อ GDP จะดีขึ้นโดยปรับตัวลดลงเหลือ 89.6% จาก 90.7% ของไตรมาสก่อนหน้านี้ แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง ในแต่ละเดือนประชาชนมีภาระในการชำระหนี้สูง และอาจมีความเสี่ยงในการที่จะผิดนัดชำระหนี้ได้ จึงควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนให้เบ็ดเสร็จอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และสินเชื่อ SME ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างพิจารณาออกแบบมาตรการแก้ปัญหาหนี้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนควบคู่ไปกับการรักษาวินัยการเงินการคลังของประชาชน

“รัฐบาลตระหนักดีถึงปัญหาซึ่งขณะนี้ยังอยู่ที่ประชาชน แต่เมื่อมองไปข้างหน้าในระยะยาวรัฐบาลก็จะให้ความสำคัญกับมาตรการ เพื่อจะเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคณะกรรมการชุดนี้จะร่วมกันกำหนดและออกแบบนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศต่อไปทั้งในระยะสั้นและระยะยาว” นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และรับทราบการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ พร้อมรับทราบภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ 3/2567 และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2567 และที่ประชุมเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเห็นชอบหลักการแนวทางและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุ “เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ โดยจะดำเนินการเงินหมื่นเฟสต่อไปให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ และต้องไม่เป็นกลุ่มเป็นเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยจะเร่งจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนไม่เกินเดือนมกราคม 2568” นายจิรายุกล่าว

19 พ.ย. 2567 เวลา 22:05 | อ่าน 90
กำลังโหลด ...


รีวิวบ้านใหม่ ไอเดียสร้างบ้าน
 
แชร์
L
ซ่อน
แสดง
มาใหม่
ประกาศสำนักงาน ก.พ. เรื่อง รับสมัครสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปี 2568 (e-Exam)
199 25 ธ.ค. 2567
ช้อปดีมีคืน กรมสรรพากรเดินหน้าต่อ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนสูงสุด 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น เริ่ม 16 มกราคม 2568 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568
209 24 ธ.ค. 2567
ครม.เคาะเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรเป็น 1,000 บาท เริ่ม 1 ม.ค.2568
63 17 ธ.ค. 2567
สอบภาค ก. ปี 2568 กำลังจะมาแล้วว เตรียมตัวกันให้พร้อม
176 17 ธ.ค. 2567
ธ.ก.ส. ออกมาตรการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวใต้ เลื่อนเวลาชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 1 ปี และไม่คิดดอกเบี้ยปรับเกษตรกรแจ้งความประสงค์ได้ที่ ธ.ก.ส ในพื้นที่ ถึง 31 มกราคม 2568
831 5 ธ.ค. 2567
แจ้งข่าวดีชาวไร่อ้อย เริ่ม 6 ธ.ค. นี้ ภาคตะวันออกและภาคอีสานเปิดหีบอ้อยน้ำตาลทรายที่แรก ก่อนทยอยเปิดภาคเหนือภาคกลาง คาดจำนวนอ้อยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.40%
777 5 ธ.ค. 2567
ทุนสำหรับบุคคลทั่วไประดับปริญญา ประจำปี 2568 (ทุน ก.พ.)
154 2 ธ.ค. 2567
ดวงกับดาวประจำวันที่ 1-7 ธันวาคม
96 1 ธ.ค. 2567
การปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุและการปรับค่าตอบแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566)
222 1 ธ.ค. 2567
รัฐบาลเดินหน้าสร้างโอกาสทำงานวัยเกษียณ จับมือ 16 ธุรกิจเอกชน เปิดตำแหน่งงานกว่า 4 พันอัตราทั่วประเทศ สมัครได้ที่เว็บไซต์
751 28 พ.ย. 2567
ดูเพิ่มเติม
 
หาเพื่อนไลน์
ไอเดียบ้านสวย
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
หางานราชการ
  English
TOEIC กับ การขึ้นเงินเดือน GED VS กศน ไทย (สอบเทียบไทย) แนะนำที่เรียน IELTS ยอดนิยม ของ เด็กอินเตอร์ TOEIC Online GED CU-TEP SAT
 
บทความกลุ่มเดียวกัน
กำลังโหลด ...