สำหรับผู้หญิง ที่อยากมีบุตรแล้ว คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าอวัยวะภายใน อย่างมดลูกเพราะหากมดลูกไม่แข็งแรง นอกจากจะบั่นทอนสุขภาพกายของตัวเองแล้วยังมีผลไปถึงสุขภาพกายของเด็กในครรภ์ที่จะลืมตามาดูโลกด้วย
หากถามว่า แล้วคุณผู้หญิงจะดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ มีบุตร วันนี้เราก็มี 10 เคล็ดลับเพื่อมดลูกแข็งแรงมากฝากกันค่ะ
1. ดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรง
สุขภาพใจเป็นเรื่องสำคัญสุดของร่างกายค่ะ เพราะสุขภาพใจจะมีผลไปถึงสุขภาพกายโดยเฉพาะความเครียด ที่ทำให้มดลูกไม่ปกติ เพราะระบบฮอร์โมนผิดปกติ ประจำเดือนจึงมาไม่ปกติ การลดความเครียดมีหลายวิธี เช่น รู้จักปลงตก มองโลกในแง่บวก หัวเราะทุกวัน ใช้ชีวิตพอเพียง ประหยัด พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ให้อภัยผู้อื่น มีจุดมุ่งหมายในชีวิต รวมถึงการออกกำลังกายด้วย
2. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
มดลูกคืออวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย หากร่างกายแข็งแรง โลหิตจะไหลเวียนไปเลี้ยงได้เต็มที่ทำให้มดลูกแข็งแรง การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เช่น
- ดูแลน้ำหนักตัวให้ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ผอมแห้งหรืออ้วนฉุเกินไป
- นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยคืนละ 6 – 8 ชั่วโมง
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักและผลไม้
- ดื่มน้ำสะอาดวันละ 30 – 40 ซีซี ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- งดการดื่มเหล้า สูบบุหรี่
3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ทำให้ภูมิต้านทานดี กล้ามเนื้อหัวใจและปอดแข็งแรง สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีช่วยป้องกันมดลูกอักเสบและมดลูกต่ำ ควรออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ จ๊อกกิ้ง เต้นแอโรบิก โยคะ เป็นต้น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 วัน ครั้งและประมาณครึ่งชั่วโมง
4. ระวังการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทำให้เกิดอาการตกขาว ปวดท้องน้อย มีไข้ มดลูกอักเสบแม้รักษาหายก็ยังมีอาการปวดมดลูก ปวดประจำเดือน มีตกขาวเรื้อรัง ไข้ทับระดู ไม่ตั้งครรภ์หรือตั้งครรภ์นอกมดลูก
การหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้มดลูกดี ดังนั้นควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งกับคนที่ไม่รู้จักไม่รู้ใจหรือไม่แน่ใจ
5. ระวังการติดเชื้อโรคทั่วไป
การติดเชื้อโรคทั่วไปทำให้เกิดอาการมดลูกอักเสบได้ เชื้อโรคทั่วไปนั้นมักปนเปื้อนอยู่กับอุจจาระระวังการทำความสะอาด โดยล้างจากด้านหน้าไปยังด้านหลังเพื่อไม่ให้เชื้อโรคทางทวารหนักมาทำให้ชิ่งคลอดและมดลูกติดเชื้อ
6. ขมิบเพื่อบริหารอุ้มเชิงกรางอย่างสม่ำเสมอ
การขมิบคือ การเกร็งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (เหมือนการกลั้นอุจจาระ ปัสสาวะ) วิธีการคือ ให้เกร็งค้างไว้ นับ 1 – 5 แล้วผ่อนคลาย อาจทำต่อเนื่องกันหรือแบ่งเป็นครั้งละ 20 – 30 ชุดก็ได้จะทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรง และมดลูกไม่ต่ำ
7. ไม่ยกของหนัก
การยกของหนักทำให้มดลูกต่ำ กระเพราะปัสสาวะกระทบกระเทือนหากจำเป็นต้องยกของหนักควรปัสสาวะก่อน
8. ไม่กินสมุนไพร ยาสตรี หรืออาหารเสริมที่มีฮอร์โมนเพศหญิงเป็นประจำ โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
เนื่องจากมดลูกเป็นอวัยวะภายในสตรีที่ไวต่อฮอร์โมนมาก การกินฮอร์โมนเพศหญิงจึงเป็นการเพิ่มการอักเสบของมดลูก ทำให้มดลูกโต เนื้องอก มดลูกขยายขนาด และเกิดโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุของมดลูกไม่ดี อาจทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ และอาจต้องตัดมดลูก
9. ตรวจร่างกายเป็นประจำ
แม้ว่าเราจะแข็งแรง ก็ควรตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ เพื่อค้นหาโรคในระยะเริ่มแรก โรคภัยไข้เจ็บมีผลต่อมดลูกไม่มากก็น้อย เช่น โรคเบาหวาน อาจทำให้มดลูกอักเสบ ติดเชื้อ เป็นเชื้อราและโรคเรื้อรังอื่นๆ อย่างความดันโลหิดสูง โรคไทรอยด์ โรคตับ โรคไต อาจทำให้มีการตกเลือดประจำเดือนมามากหรือกะปริบกะปรอย
10. ตรวจภายในเป็นประจำตามกำหนดและตรวจทุกครั้งที่พบความผิดปกติ
ความผิดปกติที่ว่าได้แก่ ตกขาวผิดปกติ (มามาก มีสี มีกลิ่น) มีเลือดออกผิดปกติ (กะปริบกะปรอยประจำเดือนมามาก มานาน) ปวดท้องน้อย ปวดประจำเดือน เป็นต้น
การตรวจภายในสามารถตรวจวินิจฉัยและรักษาการอักเสบ ติดเชื้อในช่องคลอด ปากมดลูกจนทำให้มดลูกไม่ดีได้ ทั้งยังสามารถตรวจวินิจฉัยและรักษาอาการผิดปกติของมดลูกได้แต่เนิ่นๆเช่น เนื้องอกธรรมดาของโพรงมดลูก เนื้องอกธรรมดาของมดลูก และเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ก่อนลงเอยด้วยการตัดมดลูก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก emaginfo.com
ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1399806565&grpid=01&catid=&subcatid=