1. Apple
แอปเปิ้ล ถือเป็นราชาของผลไม้ลดความอ้วน ในแอปเปิ้ลมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวง่ายต่อการดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ภายในไม่ถึง 10 นาที จึงช่วยลดความอยากอาหารและควบคุมน้ำหนักได้ดี อีกทั้งกากใยจากเปลือกแอปเปิ้ลยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย การรับประทานแอปเปิ้ลเพื่อลดน้ำหนักนิยมรับประทานแทนอาหารมื้อเย็น แต่ทั้งนี้ต้องรับประทานทั้งเปลือกเพราะถ้าปลอกเปลือกออกสารสำคัญต่างๆ ก็จะลดน้อยลงไปด้วย
2. ผักสลัด Arugula
นิยมใส่ในสลัด ผัก Arugula อุดมไปด้วยวิตามิน A และ C และมีแคลอรี่ต่ำ รสขมของ Arugula ช่วยกระตุ้นตับสำหรับการไหลของน้ำดีและระบบการย่อยอาหาร
3. Asian greens
ผักประเภทนี้ได้แก่ ผักบุ้งจีน คะน้า กวางตุ้ง ฮ่องเต้ ไดโตเกียว ทาห์ไช่ และผักโขม ผักใบเขียวนั้นจัดว่าเป็นอีกหนึ่งพืชสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคได้ด้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระวิตามินซีและเบต้า-แคโรทีน ซึ่งร่างการจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่มีผลต่อการบำรุงสายตา เสริมสร้างสุขภาพผิวพรรณและต้านทานการติดเชื้อ
4. มะละกอ
มะละกอเป็นผลไม้ที่หาซื้อง่ายตามท้องตลาดแถมมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสรรพคุณ ในมะละกอสุกนั้นจะมีไขมันน้อยมากจนเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้และยังให้พลังงานไม่ถึงเกิน 50 แคลอรี่ต่อ 100 กรัม ดังนั้นมะละกอจึงเป็นผลไม้ลดน้ำหนักอีกชนิดหนึ่งที่ผู้คนนิยมรับประทาน
5. หน่อไม้ฝรั่ง
นิยมใส่ในสลัด หรือนึ่ง เพื่อรับประทานร่วมกับผักอื่นๆและปลา หน่อไม้ฝรั่งเป็นแหล่งของเส้นใยโฟเลต วิตามิน C, E, K, B6 และแร่ธาตุอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีซาโปนิน ที่เชื่อว่าจะช่วยลดคอเลสเตอรอลและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
6. อะโวคาโด้
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในอะโวคาโด้จะช่วยเพื่อเผาผลาญไขมันอิ่มตัวในร่างกาย ซึ่งหมายความว่า มันจะช่วยกำจัดไขมันที่ไม่จำเป็นในร่างกายของคุณออกไป
7. กล้วย
กล้วยเป็นอาหารที่ให้พลังงานเป็นอย่างดี เนื่องจากกล้วยอุดมด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน ช่วยลดอาการตัวบวม มีใยอาหารช่วยในเรื่องของปัญหาท้องผูก โดยเฉพาะกล้วยหอม หากรับประทานแทนอาหารมื้อเช้าจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มท้อง
8. ข้าวบาร์เลย์
ข้าวบาร์เลย์จะช่วยลดคอเลสเตอรอลส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ จากการวิจัยของสวีเดนพบว่า หากคุณทานข้าวบาร์เลย์เป็นมื้อเช้าจะช่วยลดความอ้วนจากการทานอาหารมื้อต่อๆ ไปของวันได้ เพราะไฟเบอร์ชนิดละลายในน้ำที่มีอยู่มากในข้าวบาร์เลย์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการย่อยหลายชั่วโมง คุณเลยจะรู้สึกอิ่มนานกว่ารับประทานข้าวทั่วไป
9. ถั่ว
พืชตระกูลถั่ว เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต ถั่วจะมีเส้นใยสูงและมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และต้านเชื้อราที่จะช่วยปกป้องเราจากโรค ใครที่เคยพยายามลดน้ำหนักโดยควบคุมปริมาณอาหารและปริมาณไขมัน จะทราบดีว่าการปฏิบัติเช่นนี้อาจทำได้ไม่นาน อาหารอาจขาดรสชาติหรือทำให้หิวบ่อย ถั่วมีทั้งไขมันที่ดีและเส้นใยอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม จึงเป็นอาหารธรรมชาติที่เหมาะจะเป็นอาหารควบคุมน้ำหนัก
10. ผลเบอร์รี่
ผลเบอร์รี่ เช่น ราสเบอร์รี่และแบล็ก เป็นหนึ่งในผลไม้ ที่ดีที่สุดในการต่อต้านริ้วรอย มีเส้นใยสูง และยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแต่มีราคาแพง แบล็คเบอร์รี่ 1 ถ้วยเล็กๆ สามารถให้ไฟเบอร์ถึง 10 กรัมเลยทีเดียว
ข้อมูลจาก
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000039303