วันที่ 2 กรกฎาคม นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันอาหารทอดที่อมน้ำมันมีมากมาย หลายนิยมเอากระดาษทิชชูซับอาหารทอด เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรกระทำ เพราะเนื้อเยื่อเล็กๆ ของกระดาษทิชชูจะติดในอาหาร ทำให้ได้รับสารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในกระดาษทิชชูไปด้วย เนื่องจากกระดาษทิชชูผลิตมาจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ โดยมีวัตถุดิบคือต้นไม้ เช่น ต้นไผ่หรือต้นไม้อื่น ๆ
แต่ปัจจุบันสังคมให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงมีการนำกระดาษหมุนเวียนใหม่ เช่น กระดาษเอ 4 ( A4) ที่ใช้แล้ว นำไปผลิตกระดาษทิชชู หรือแม้แต่กระดาษฟางที่ผลิตจากฟางข้าว ซึ่งในกระบวนการตีวัตถุดิบให้เป็นเนื้อเยื่อต้องใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโซดาไฟ และเพื่อความขาวน่าใช้จึงมีการใช้สารคลอรีนฟอกขาว และมีสารไดออกซิน (dioxins) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งเป็นส่วนประกอบด้วย
นพ.พรเทพ กล่าวต่อว่า สารโซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) หรือโซดาไฟ เมื่อทำปฏิกิริยากับโปรตีนและไขมัน จะมีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อรุนแรง ทำให้บริเวณนั้นอ่อนนุ่มกลายเป็นวุ้นหรือเจลาตินและสบู่ เนื้อเยื่อถูกทำลายหรือถูกกัดลึกลงไป ซึ่งการทำลายอาจต่อเนื่องหลายวัน การหายใจเอาไอหรือละอองสารยังส่งผลให้ระคายเคืองต่อทางเดินหายใจส่วนบน ทำให้จาม ปวดคอ น้ำมูกไหล ปอดอักเสบรุนแรง หายใจขัด การสัมผัสถูกผิวหนังจะระคายเคืองรุนแรง เป็นแผลไหม้และพุพองได้ การกลืนกินทำให้แสบไหม้บริเวณปาก คอ และกระเพาะอาหาร
อ่านต่อ
คลิกที่นี้
ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์