ตามที่มีผู้ยื่นฟ้อง กสทช. ในกรณีการจัดประมูล 3 จี ต่อศาลปกครองกลางนั้น
ล่าสุดศาลมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องทั้ง 2 คดี ดังนี้
คดีที่ สมาคมสถาบันคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้บริโภค และ นายชูยศ โอจงเพียร เป็นโจทก์ฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามคดีหมายเลขดำที่ 2644/2555 ในกรณีที่ กสทช. อนุญาตให้ บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด ซึ่งมีกรรมการที่มีอำนาจในบริษัทเป็นคนต่างด้าว เข้าร่วมประมูล ซึ่งขัดต่อข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว โดยขอให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมประมูล และมีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราว
ศาลเห็นว่า การระงับหรือชะลอการประมูลคลื่นความถี่ที่มีขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคม จะทำให้การให้บริการต่อประชาชนต้องล่าช้าไปอีก ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 51,300 ล้านบาท และ ผู้ที่จะมีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลในกรณีนี้ ต้องหมายถึงผู้เข้าร่วมประมูลรายอื่นๆ เนื่องจากมีส่วนได้เสียโดยตรงกับการรับใบอนุญาต ส่วนผู้ฟ้องกล่าวอ้างว่า มีลักษณะครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวนั้น อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ในอนาคต โดยหากเหตุการณ์เป็นไปตามที่ผู้ฟ้องคดีกังวลใจ ก็มีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลได้ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
ส่วนคดีที่ พลเรือเอก ชัย สุวรรณภาพ, นายสุทธิ ผลสวัสดิ์ และนายธรรมนูญ จุลมณีโชติ เป็นผู้ฟ้อง กสทช. ตามคดีหมายเลขดำที่ 1907/2555 โดยระบุว่า การที่ กสทช. ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 แล้วจะทำให้เกิดการประมูลซึ่งต้องมีการชำระเงิน และมีสถานะเป็นเจ้าหนี้-ลูกหนี้ต่อกัน ซึ่งจะทำให้ กสทช. ออกคำสั่งทางปกครองใดๆ ต่อผู้ประมูลไม่ได้ เพราะขัดกับ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ที่ห้ามคู่กรณีทำการพิจารณาทางปกครอง
ศาลเห็นว่า ผู้มีสิทธิ์ฟ้องคดีต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง เช่น มีผู้มีความประสงค์จะขอรับใบอนุญาต แต่มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามประกาศ และผู้ถูกฟ้องคดี (กสทช.) เป็นแต่เพียงผู้ที่มีหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ เงินที่ได้จากการประมูลย่อมตกเป็นของแผ่นดิน จึงไม่มีกรณีที่ผู้ฟ้องทั้ง 3 อ้าง ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดีไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ
ข้อมูลจาก
www.matichon.co.th วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 20:00:10 น.