เชื่อว่าศัตรูร่วมตัวฉกาจของความสวยความงามสำหรับผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้น่าจะหนีไม่พ้น "ริ้วรอยความเหี่ยวย่น" อย่างแน่นอน
สังเกตได้จากความพยายามคิดค้นเสาะแสวงหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าขึ้นมาอย่างมากมายเพื่อชะลอรอยเหี่ยวย่นตามวัยและกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
"ครูจิ๊บ-วลัยพัชร อักษรดี" ครูสอนโยคะ ผู้เขียนหนังสือ "โยคะสีชมพู" มาเวิร์กช็อป "โยคะหน้า" กับเครื่องสำอาง @ skinexercise ได้อธิบายว่า ปกติการทำโยคะธรรมดาจะช่วยให้กล้ามเนื้อและผิวหน้ายกกระชับได้อยู่แล้วในทางอ้อม เพียงแต่ถ้าอยากให้ได้ผลดีในทางตรงก็มี "โยคะหน้า" ให้เลือกทำเช่นกัน โดยขั้นตอนในการทำนั้นมีเพียง 7 ท่าง่าย ๆ ดังนี้
ท่าที่ 1 เรียกว่า
"การหายใจแบบคลื่นทะเล" เริ่มจากการยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาแตะบริเวณลำคอ เพื่อสัมผัสกับจังหวะการหายใจของตัวเอง จากนั้นให้หายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ หายใจออกทางปากให้เกิดเสียงคล้ายการกรนยาว ๆ ขึ้นมา เมื่อรู้สึกว่าทำท่าแรกได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว ให้ลองเปลี่ยนมาเป็นการหายใจเข้าและออกทางจมูกแทน ทำท่านี้วันละประมาณ 10 ครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ตามทางเดินของลมหายใจ และเตรียมความพร้อมของร่างกาย
ท่าที่ 2 เรียกว่า
"ลมหายใจหน้าใส" วิธีนี้ทำให้เริ่มจากการใช้มือข้างใดก็ได้จับบริเวณท้องน้อย จากนั้นให้หายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ แล้วหายใจออกทางปาก พร้อมกับการแขม่วท้องเป็นจังหวะเดียวกัน 3 ครั้งติดต่อกัน โดยแต่ละครั้งที่หายใจออกจะต้องเกิดเสียง "ฟู่" ไปด้วย และเช่นเดียวกับท่าแรก เมื่อเริ่มรู้สึกชิน ให้เปลี่ยนมาเป็นการหายใจออกทางจมูกแทนด้วย ทำท่านี้วันละประมาณ 10 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนและการถ่ายเทของอาหารผิวจากชั้นใน
ท่าที่ 3 เรียกว่า
"ท่าอาหมวย" เริ่มจากใช้นิ้วทั้ง 2 ข้างดันบริเวณหางตาขึ้นไปข้างบนจนรู้สึกตึง จากนั้นให้ค่อย ๆ กะพริบตาซ้าย-ขวาสลับกันไปทีละข้าง ข้างละ 10 ครั้ง จากนั้นให้เปลี่ยนมาเป็นการหรี่ตาค้างไว้สัก 10 วินาทีแทน โดยท่านี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาตึงกระชับขึ้น
ท่าที่ 4 เรียกว่า
"ท่าเต่า" ที่จะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อรอบคางและลำคอให้เต่งตึง เริ่มจากการใช้มือทั้ง 2 ข้างมาแตะไว้บริเวณลำคอ และหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ หายใจออก พร้อมยื่นคอและฟันล่างไปข้างหน้าจนสุด จากนั้นจึงดึงคอกลับมาตั้งตรงเช่นเดิม ทำแบบนี้ 10 ครั้ง
ท่าที่ 5 เรียกว่า
"ท่าปลาทอง" หรือ "ปลาปักเป้า" ที่จะช่วยให้แก้มตึงสดใส ผิวพรรณเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ก่อนอื่นให้ใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปที่กระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้างให้สุด พร้อมกับดูดกระพุ้งแก้มจนปากจู๋ค้างไว้สัก 10 วินาที จึงดึงออก หลังจากนั้นหายใจเข้าจนแก้มป่องเต็มที่ค้างไว้ 10 วินาที
ท่าที่ 6 เรียกว่า
"ท่าสิงโต" ให้เริ่มจากยื่นแขนทั้ง 2 ข้างออกไปด้านหน้าและหงายมือ จากนั้นค่อย ๆ เคลื่อนมือมาวางไว้บนตัก ตามด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ผ่านจมูก ค่อย ๆ หายใจออกทางปาก พร้อมกับแลบลิ้นออกมายาว ๆ ลงด้านล่างให้สุด และเลิกตาขึ้นด้านบนให้สุดเช่นกัน ทำติดต่อกัน 10 ครั้ง เพื่อยืดกล้ามเนื้อใบหน้าให้ตึง
ท่าสุดท้ายเรียกว่า
"ท่าพระพุทธรูป" ท่านี้เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หลังการทำโยคะทั้ง 6 ท่าจบลง วิธีทำ คือนั่งตัวตรงคอตรงมองไปข้างหน้า ลืมตาให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะค่อย ๆ หายใจออกไป พร้อมกับการหลับตาลงให้แน่นสนิทจนครบ 10 ครั้ง
ข้อมูลจาก
http://www.prachachat.net และ
www.matichon.co.th