นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า เพื่อดูแลประชาชนวัยเกษียณให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม
จึงฟื้นแนวคิดการตั้ง กบช. เพื่อให้เป็นกองทุนรองรับการดูแลประชาชนให้มีสวัสดิการวัยเกษียณให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เนื่องจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ดูแลข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพดูแลพนักงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทจดทะเบียน ขณะที่กองทุนประกันสังคมดูแลพนักงานบริษัท กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ดูแลผู้มีอาชีพอิสระ แต่พนักงานบริษัทบางกลุ่มไม่มีสวัสดิการดูแลในเรื่องบำนาญและยังไม่ครอบคลุม จึงต้องการรื้อฟื้นแนวคิดดังกล่าว เพื่อให้กองทุนประกันสังคมสามารถดึงกลุ่มพนักงานที่ต้องการรับเงินบำนาญนำส่งเงินสะสมเข้ากองทุนเพิ่มจากปัจจุบัน โดยขณะนี้ สศค.กำลังเร่งสรุปแนวทางการศึกษาทั้งหมด เพื่อเสนอปลัดกระทรวงการคลังพิจารณา
สำหรับแนวทางการดำเนินงานของ กบช.เตรียมมอบหมายให้ กอช.บริหารจัดการกองทุน ขณะนี้ต้องศึกษาอีกหลายด้าน ทั้งแนวทางการนำส่งเงินสะสมเข้ากองทุนของนายจ้างและลูกจ้าง หลังจาก สศค.เคยศึกษามาแล้วในช่วงปี 2550
โดยช่วงนั้นเสนอให้สมาชิกลูกจ้างและนายจ้างส่งเงินสะสมเข้ากองทุนอัตราร้อยละ 3 ของเงินเดือน แต่ปัจจุบันปัจัยหลายด้านได้เปลี่ยน จึงต้องศึกษาแนวทางการนำส่งเงินสมทบให้ชัดเจน เมื่อครบกำหนดจ่ายเงินจากกองทุนจะมีทั้งแบบรับเป็นเงินก้อนและการทยอยรับในรูปเงินบำนาญ โดยจะมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อสรุปแนวทางได้ทั้งหมดแล้ว คาดว่าจะครอบคลุมกลุ่มแรงงานในระบบทั้งลูกจ้างบริษัท เอกชนข้าราชการ ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวรัฐบาล พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวรัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นจะได้มีสวัสดิการดูแลในวัยเกษียณ
ข้อมูลจาก
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9590000013925