ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

Untitled Document ใครที่จะไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ บ้างครับ ยังไม่มีประกาศ รายชื่อกะวันที่และสถานที่สอบเลยครับ หรือว่าประกาศแล้ว ครับ

ความรักเหมือนฝุ่น



รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

อ่านหนังสื่อไม่รู้เรื่องเลย กล้าไปสอบเป่าน้อ เตรียมตัวไม่ดีเลย ว้าๆๆ

ลูกข้าวเหนียว

11 มิ.ย. 2555 14:24:33

#31
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

เหมือนกันคะคุณลูกข้าวเหนียว ยังอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่ายังมึนกับ สค. ยังไม่หายเท่าไหร่ ห้าสิบห้าสิบว่าจะไปรึเปล่า หนักในทางไม่ไปสอบจะมากกว่า เอ้อ

kam

11 มิ.ย. 2555 14:49:47

#32
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ไปสอบด้วยคนค่ะ แต่ไปสอบสัมภาษณ์กรมที่ดินก่อนแล้วอยู่ยาวสอบกรมวิทย์ค่ะ สู้ๆๆๆนะค่ะ

เส้นเล็ก

11 มิ.ย. 2555 14:56:24

#33
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ถึงคุณ เล้นเล็ก เหมือนกันค่ะ.....

มาร์วิน

11 มิ.ย. 2555 16:36:08

#34
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

โค้งสุดท้าย แร่น๊ะ เพื่อน อ่านระเบียบ กันเยอะ ๆ น๊ะค่ะ

tukky

11 มิ.ย. 2555 20:43:26

#35
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

อย่าให้เหมือน สอบตำรวจแล้วกัน ต้องสอบใหม่ เซ็ง......

ไอ้พวกทำผิดไม่ยอมตายไปจากโรงนี้จริงๆๆ

ลูกข้าวเหนียว

13 มิ.ย. 2555 10:50:48

#36
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอลองอีกสัก 2-3 สนามนะถ้ายังไม่ได้คงต้องยอมล่ะ ลาออกไปหาค้าขายดีกว่า อิอิ

ต้น

13 มิ.ย. 2555 10:55:56

#37
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอลองอีกสัก 2-3 สนามนะถ้ายังไม่ได้คงต้องยอมล่ะ ลาออกไปหาค้าขายดีกว่า อิอิ

ต้น

13 มิ.ย. 2555 10:56:02

#38
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอลองอีกสัก 2-3 สนามนะถ้ายังไม่ได้คงต้องยอมล่ะ ลาออกไปหาค้าขายดีกว่า อิอิ

ต้น

13 มิ.ย. 2555 10:56:00

#39
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

พวกเรานั่งรถตู้ไปประมาณ 6-7 คน รถยังว่างอีก แต่อยู่ร้อยเอ็ดน๊ะ... มีใครสนใจไปด้วยมั้ย...

JM.

13 มิ.ย. 2555 11:20:11

#40
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

กรณีของการสอบตำรวจนั้น ผมขอมองแบบพื้นๆว่า มีคนอยากเป็นข้าราชการกันมากขึ้น มีการแข่งขันกันสูงขึ้น และข้าราชการก็เป็นอาชีพที่มีความมั่นคงมาก

พีท

13 มิ.ย. 2555 11:30:10

#41
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

คุณ tukky ไปสอบกรมวิทฯ ด้วยเหรอค่ะ

pheung

13 มิ.ย. 2555 12:44:31

#42
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

คือว่า6-7คน ที่ว่าคือ 3 คนไปสอบ กทม.
อีก 4 คนไปสอบกรมวิทย์ แต่ไปรถตู้คันเดียวกันน่ะ..(ประหยัดดี)

JM.

13 มิ.ย. 2555 12:57:10

#43
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

สรุปแนวข้อสอบระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548
1. ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548นี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
2. “ส่วนราชการ” หมายความว่า
ตอบ ส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
3. “รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่า
ตอบ รัฐวิสาหกิจที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
4. “การจัดสรรงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
5. “เป้าหมายยุทธศาสตร์ระดับชาติ” หมายความว่า
ตอบ ผลสัมฤทธิ์ที่รัฐบาลต้องการจะให้เกิดต่อประชาชนและประเทศ
6. “เป้าหมายการให้บริการกระทรวง” หมายความว่า
ตอบ เป้าหมายการให้บริการกระทรวงตามเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี
7. “แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด” หมายความว่า
ตอบ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตามที่จังหวัดกำหนดขึ้นโดยสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดและเป้าหมายยุทธศาสตร์ระดับชาติ
8. “แผนงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ แผนงบประมาณที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
9. “แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการ” หมายความว่า
ตอบ แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการที่กำหนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี
10. “ผลผลิต” หมายความว่า
ตอบ ผลผลิตที่กำหนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
11. “โครงการ” หมายความว่า
ตอบ โครงการที่กำ หนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี
12. “งบรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ กลุ่มวัตถุประสงค์ของรายจ่าย
13. “เงินทดรองราชการ” หมายความว่า
ตอบ เงินทดรองราชการตามระเบียบว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายตามโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ
14. “แผนการปฏิบัติงาน” หมายความว่า
ตอบ แผนการปฏิบัติงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในรอบปีงบประมาณ
15. “แผนการใช้จ่ายงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ แผนแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายสำ หรับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อดำ เนินงานตามแผนการปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณ
16. “สำ นักเบิกส่วนกลาง” หมายความว่า
ตอบ กรมบัญชีกลาง
17. “สำ นักเบิกส่วนภูมิภาค” หมายความว่า
ตอบ สำนักงานคลังจังหวัด สำ นักงานคลังจังหวัด ณ อำเภอ และสำ นักงานคลังอำเภอด้วย
18. “การโอนงบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณของผลผลิตหรือโครงการใดไปผลผลิตหรือโครงการอื่นภายในงบรายจ่ายเดียวกัน
19. “การเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ การเปลี่ยนแปลงรายการและหรือจำนวนเงินของรายการที่กำหนดไว้ภายใต้งบรายจ่ายของแผนงบประมาณ
20. “การโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ การโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายจากสำ นักเบิกส่วนกลางไปยังสำ นักเบิกส่วนภูมิภาคใด
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และแก้ไขเพิ่มเติม
1. “งบประมาณรายจ่าย” หมายความว่าอย่างไร
ก. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ข. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ค. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป และให้ใช้ปี พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น
ง. ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง
ตอบ ก. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
2. พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2534 ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 108 ตอนที่ 168 ลงวันที่เท่าใด
ก. วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2534 ข. วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2534
ค. วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2534 ง. วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2534
ตอบ ค. วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2534
3. พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 ใน พ.ศ. ใด
ก. พ.ศ. 2515 ข. พ.ศ. 2517
ค. พ.ศ. 2534 ง. พ.ศ. 2543
ตอบ ข. พ.ศ. 2517
4. “งบประมาณรายจ่ายข้ามปี” หมายความว่าอย่างไร
ก. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ข. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ค. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป และให้ใช้ปี พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น
ง. ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง
ตอบ ข. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
5. “ปีงบประมาณ” หมายความว่าอย่างไร
ก. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ข. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ค. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป และให้ใช้ปี พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น
ง. ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง
ตอบ ค. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป และให้ใช้ปี พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น
6. “หนี้” หมายความว่าอย่างไร
ก. ข้อผูกพันที่จะต้องจ่ายหรืออาจจะต้องจ่ายเป็นเงิน สิ่งของหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นข้อผูกพันอันเกิดจากการกู้ยืม การค้ำประกัน การซื้อ หรือการจ้างโดยใช้เครดิต หรือจากการอื่นใด
ข. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ค. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ง. ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง
ตอบ ก. ข้อผูกพันที่จะต้องจ่ายหรืออาจจะต้องจ่ายเป็นเงิน สิ่งของหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นข้อผูกพันอันเกิดจากการกู้ยืม การค้ำประกัน การซื้อ หรือการจ้างโดยใช้เครดิต หรือจากการอื่นใด
7. “เงินประจำงวด” หมายความว่าอย่างไร
ก. ข้อผูกพันที่จะต้องจ่ายหรืออาจจะต้องจ่ายเป็นเงิน สิ่งของหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นข้อผูกพันอันเกิดจากการกู้ยืม การค้ำประกัน การซื้อ หรือการจ้างโดยใช้เครดิต หรือจากการอื่นใด
ข. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ค. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ง. ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง
ตอบ ง. ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง
8. “ส่วนราชการ” หมายความว่าอย่างไร
ก. องค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ
ข. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ
ค. กระทรวง ทบวง กรม หรือทบวงการเมืองที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักงานหรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ แต่ไม่รวมตลอดถึงรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ค. กระทรวง ทบวง กรม หรือทบวงการเมืองที่มีฐานะเทียบเท่า สำนักงานหรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ แต่ไม่รวมตลอดถึงรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
9. “รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่าอย่างไร
ก. องค์การของรัฐบาลหรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ
ข. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ
ค. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่วนราชการ และ/หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ก) และ/หรือ (ข) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินกว่าร้อยละห้าสิบ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
10. พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2511 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 85 ตอนที่ 10 ลงวันที่เท่าใด
ก. วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2511 ข. วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2511
ค. วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2511 ง. วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2511
ตอบ ค. วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2511
11. “เงินทดรองราชการ” หมายความว่าอย่างไร
ก. เงินที่กระทรวงการคลังจ่ายและอนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร เพื่อทดรองเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบหรือข้อบังคับของกระทรวงการคลัง
ข. งบประมาณรายจ่ายที่ใช้ได้เกินปีงบประมาณ ตามวัตถุประสงค์และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ค. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ง. จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือให้ก่อหนี้ผูกพันได้ ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย
ตอบ ก. เงินที่กระทรวงการคลังจ่ายและอนุญาตให้ส่วนราชการมีไว้ตามจำนวนที่เห็นสมควร เพื่อทดรองเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบหรือข้อบังคับของกระทรวงการคลัง
12. ข้อใดต่อไปนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการ
ก. เรียกให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเสนอประมาณการรายรับและรายจ่ายตามแบบและหลักเกณฑ์ พร้อมด้วยรายละเอียดตามที่ผู้อำนวยการกำหนด
ข. วิเคราะห์งบประมาณและการจ่ายเงินของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
ค. กำหนด เพิ่ม หรือลดเงินประจำงวดตามความจำเป็นของการปฏิบัติงาน และตามกำลังเงินของแผ่นดิน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
13. ข้อใดคือลักษณะของงบประมาณ
ก. คำแถลงประกอบงบประมาณแสดงฐานะและนโยบายการคลังและการเงิน สาระสำคัญของงบประมาณ และความสัมพันธ์ระหว่างรายรับและงบประมาณรายจ่ายที่ขอตั้ง
ข. รายรับรายจ่ายเปรียบเทียบระหว่างปีที่ล่วงมาแล้ว ปีปัจจุบันและปีที่ขอตั้งงบประมาณรายจ่าย
ค. คำอธิบายเกี่ยวกับประมาณการรายรับ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
14. การกู้เงินตาม มาตรา 9 ในปีหนึ่งๆ จะสามารถกู้เงินได้เท่าใด
ก. ร้อยละยี่สิบของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนต้นเงินกู้
ข. ร้อยละสี่สิบของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนต้นเงินกู้
ค. ร้อยละหกสิบของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนต้นเงินกู้
ง. ร้อยละแปดสิบของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนต้นเงินกู้
ตอบ ง. ร้อยละแปดสิบของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนต้นเงินกู้
15. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 203 ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 89 ตอนที่ 134 ลงวันที่เท่าใด
ก. วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2515 ข. วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2515
ค. วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2515 ง. วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2515
ตอบ ง. วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2515






แนวข้อสอบระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 สอบนายร้อยสายการเงิน

สรุปแนวข้อสอบระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548
1. ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548นี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่
ตอบ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
2. “ส่วนราชการ” หมายความว่า
ตอบ ส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
3. “รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่า
ตอบ รัฐวิสาหกิจที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
4. “การจัดสรรงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
5. “เป้าหมายยุทธศาสตร์ระดับชาติ” หมายความว่า
ตอบ ผลสัมฤทธิ์ที่รัฐบาลต้องการจะให้เกิดต่อประชาชนและประเทศ
6. “เป้าหมายการให้บริการกระทรวง” หมายความว่า
ตอบ เป้าหมายการให้บริการกระทรวงตามเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี
7. “แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด” หมายความว่า
ตอบ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตามที่จังหวัดกำหนดขึ้นโดยสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดและเป้าหมายยุทธศาสตร์ระดับชาติ
8. “แผนงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ แผนงบประมาณที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
9. “แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการ” หมายความว่า
ตอบ แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการที่กำหนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี
10. “ผลผลิต” หมายความว่า
ตอบ ผลผลิตที่กำหนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
11. “โครงการ” หมายความว่า
ตอบ โครงการที่กำ หนดไว้ในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี
12. “งบรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ กลุ่มวัตถุประสงค์ของรายจ่าย
13. “เงินทดรองราชการ” หมายความว่า
ตอบ เงินทดรองราชการตามระเบียบว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อรองจ่ายตามโครงการเงินกู้จากต่างประเทศ
14. “แผนการปฏิบัติงาน” หมายความว่า
ตอบ แผนการปฏิบัติงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในรอบปีงบประมาณ
15. “แผนการใช้จ่ายงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ แผนแสดงรายละเอียดการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายสำ หรับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเพื่อดำ เนินงานตามแผนการปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณ
16. “สำ นักเบิกส่วนกลาง” หมายความว่า
ตอบ กรมบัญชีกลาง
17. “สำ นักเบิกส่วนภูมิภาค” หมายความว่า
ตอบ สำนักงานคลังจังหวัด สำ นักงานคลังจังหวัด ณ อำเภอ และสำ นักงานคลังอำเภอด้วย
18. “การโอนงบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณของผลผลิตหรือโครงการใดไปผลผลิตหรือโครงการอื่นภายในงบรายจ่ายเดียวกัน
19. “การเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ การเปลี่ยนแปลงรายการและหรือจำนวนเงินของรายการที่กำหนดไว้ภายใต้งบรายจ่ายของแผนงบประมาณ
20. “การโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า
ตอบ การโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายจากสำ นักเบิกส่วนกลางไปยังสำ นักเบิกส่วนภูมิภาคใด
21. “รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ” หมายความว่า
ตอบ รายการงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดให้ต้องจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายเกินหนึ่งปีงบประมาณขึ้นไปในขณะที่ได้ก่อหนี้ผูกพัน
22. “ระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ” หมายความว่า
ตอบ ระบบการจัดทำ และรับส่งข้อมูลการจัดการงบประมาณตามระบบการบริหารการคลังภาครัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
23. ใครเป็นผู้เห็นสมควร ในกรณีที่มิใช่การโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายระหว่างจังหวัด
ตอบ ผู้ว่าราชการจังหวัด
24. การมอบ อำนาจให้ทำ เป็นหนังสือและส่งสำ เนาหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวให้สำ นักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบภายใน
ตอบ สิบห้าวันนับแต่วันที่มอบอำนาจ
25. ในกรณีที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้
ตอบ ให้ใช้สำเนาเอกสารกระดาษที่จัดพิมพ์ไว้เป็นหลักฐานอ้างอิงแทนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้
26. ส่วน ราชการและรัฐวิสาหกิจจัดทำ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณส่งให้สำ นักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนวันเริ่มต้นปีงบประมาณไม่น้อยกว่า
ตอบ สิบห้าวัน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สำ นักงบประมาณกำหนด
27. กรณีต้องใช้เงินกู้จากต่างประเทศสมทบกับเงินบาท
ตอบ ให้ระบุจำนวนเงินของแต่ละงบรายจ่ายที่ขอใช้เงินทดรองราชการ และระบุสำ นักเบิกไว้ที่สำ นักเบิกส่วนกลาง
28. ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งดำ เนินการโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของแผนงบประมาณอย่างช้าไม่เกิน
ตอบ สิบห้าวันนับตั้งแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ
29. ใครอำนาจโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในงบรายจ่ายใดๆ
ตอบ หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้ารัฐวิสาหกิจ
30. ในกรณีที่เป็นการโอนเปลี่ยนแปลงเพื่อจัดหาครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างจะต้องมีวงเงินต่อหน่วยตํ่ากว่า
ตอบ หนึ่งล้านบาทและตํ่ากว่าสิบล้านบาทตามลำดับ
31. หากเงินนอกงบประมาณมีไม่เพียงพอและจะใช้เงินงบประมาณรายจ่ายไปเพิ่ม ให้เพิ่มได้ไม่เกิน
ตอบ ไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินในส่วนที่เป็นงบประมาณรายจ่ายรายการนั้น
32. คำ ว่า “หน่วย” หมายความว่า
ตอบ หน่วยที่สามารถนับได้
33. การจัดส่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐเมื่อสิ้นระยะเวลาในแต่ละไตรมาสภายใน
ตอบ สิบห้าวันนับแต่วันสิ้นไตรมาส
34. รายงานประจำปี โดยมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนส่งสำนักงบประมาณภายใน
ตอบ หกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ
35. สำนักงบประมาณจะรายงานผลต่อนายกรัฐมนตรีในกรณี
ตอบ กรณีที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจไม่ปฏิบัติการหรือไม่อาจปฏิบัติการให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ











หลักการจำแนกประเภทรายจ่าย
ตามงบประมาณ

รายจ่ายตามงบประมาณจำแนกออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1. รายจ่ายของส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจ
2. รายจ่ายงบกลาง

1. รายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ

รายจ่ายของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ หมายถึง รายจ่ายซึ่งกำหนดไว้สำหรับ
แต่ละส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะ จำแนกออกเป็น 5 ประเภทงบรายจ่าย ได้แก่
1.1 งบบุคลากร
1.2 งบดำเนินงาน
1.3 งบลงทุน
1.4 งบเงินอุดหนุน
1.5 งบรายจ่ายอื่น
1.1 งบบุคลากร หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคล
ภาครัฐ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว และค่าตอบแทนพนักงานราชการ รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว
1.1.1 เงินเดือน หมายถึง เงินที่จ่ายให้แก่ข้าราชการและพนักงานของรัฐ
ทุกประเภทเป็นรายเดือน โดยมีอัตราตามที่กำหนดไว้ในบัญชีถือจ่ายเงินเดือนประจำปี รวมถึงเงินที่กระทรวงการคลังกำหนดให้จ่ายในลักษณะเงินเดือนและเงินเพิ่มอื่นที่จ่ายควบกับเงินเดือน เช่น
(1) เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร
(2) เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของรองประธานวุฒิสภา
รองประธานสภา ผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

(3) เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
(4) เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของประธานศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

(5) เงินประจำตำแหน่งขององคมนตรีและรัฐบุรุษ
(6) เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการ
(7) เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งข้าราชการการเมือง
(8) เงินเพิ่มค่าวิชา (พ.ค.ว.)
(9) เงินเพิ่มพิเศษค่าภาษามลายู (พ.ภ.ม.)
(10) เงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งครูช่างอาชีวศึกษา
ตามโครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาอาชีวศึกษา (พ.ค.ช.)
(11) เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.)
(12) เงินเพิ่มประจำตำแหน่งที่ต้องฝ่าอันตรายเป็นปกติ
(13) เงินเพิ่มพิเศษผู้ทำหน้าที่ปกครองโรงเรียนตำรวจ (พ.ร.ต.)
(14) เงินเพิ่มพิเศษสำหรับข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ (พ.ข.ต.)
(15) เงินเบี้ยกันดาร (บ.ก.)
(16) เงินค่าตอบแทนรายเดือนสำหรับข้าราชการ
(17) เงินช่วยเหลือการครองชีพข้าราชการระดับต้น
1.1.2. ค่าจ้างประจำ หมายถึง เงินที่จ่ายเป็นค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างประจำ
ของส่วนราชการ โดยมีอัตราตามที่กำหนดไว้ในบัญชีถือจ่ายค่าจ้างประจำ รวมถึงเงินที่กระทรวง
การคลังกำหนดให้จ่ายในลักษณะค่าจ้างประจำ และเงินเพิ่มอื่นที่จ่ายควบกับค่าจ้างประจำ เช่น
(1) เงินเพิ่มพิเศษสำหรับการสู้รบ (พ.ส.ร.)
(2) เงินเบี้ยกันดาร (บ.ก.)
(3) เงินค่าตอบแทนรายเดือนสำหรับลูกจ้างประจำ
(4) เงินช่วยเหลือการครองชีพพิเศษ
1.1.3. ค่าจ้างชั่วคราว หมายถึง เงินที่จ่ายเป็นค่าจ้างสำหรับการทำงานปกติแก่ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ รวมถึงเงินเพิ่มอื่นที่จ่ายควบกับค่าจ้างชั่วคราว

1.1.4 ค่าตอบแทนพนักงานราชการ หมายถึง เงินที่จ่ายเป็นค่า
ตอบแทนการปฏิบัติงานให้แก่พนักงานราชการ ตามอัตราที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ รวมถึงเงินที่กำหนดให้จ่ายในลักษณะดังกล่าว และเงินเพิ่มอื่นที่จ่าย
ควบกับค่าตอบแทนพนักงานราชการ เช่น เงินช่วยเหลือการครองชีพพิเศษ เป็นต้น

1.2 งบดำเนินงาน หมายถึง รายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจำ ได้แก่ รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค รวมถึงรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายจากงบรายจ่ายอื่นใดในลักษณะรายจ่ายดังกล่าว
1.2.1 ค่าตอบแทน หมายถึง เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ผู้ที่ปฏิบัติงานให้
ทางราชการตามที่กระทรวงการคลังกำหนด เช่น
(1) เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ
(2) เงินตอบแทนตำแหน่งและเงินอื่นๆ ให้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่าย
ปกครอง อาทิ เงินช่วยเหลือเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เงินช่วยเหลือในการทำศพ
(3) ค่าตอบแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกอาสารักษา
ดินแดน ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
(4) ค่าตอบแทนกรรมการตรวจคะแนน กรรมการสำรอง และเสมียนคะแนนในการเลือกตั้ง
(5) ค่าตอบแทนคณะกรรมการตรวจการจ้างและควบคุมงาน
ก่อสร้างที่มีคำสั่งแต่งตั้งจากทางราชการ
(6) ค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานด้านการรักษาความเจ็บป่วยนอกเวลา
ราชการและในวันหยุดราชการ
(7) เงินรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตร
กำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
(8) เงินประจำตำแหน่งผู้บริหารในมหาวิทยาลัย
(9) เงินสมนาคุณกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการ
(10) เงินสมนาคุณวิทยากรในการฝึกอบรมของส่วนราชการ
(11) เงินสมนาคุณอาจารย์สาขาวิชาที่ขาดแคลนในสถาบัน
อุดมศึกษาของรัฐ
(12) เงินค่าฝ่าอันตรายเป็นครั้งคราว
(13) เงินค่าที่พักผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศ
(14) เงินพิเศษที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างของสำนักราชการในต่างประเทศ
ตามประเพณีท้องถิ่น
(15) ค่าจ้างนอกเวลา ค่าอาหารทำการนอกเวลา
(16) ค่าสอนพิเศษในสถานศึกษาของทางราชการ
(17) เงินรางวัลกรรมการสอบ
(18) ค่าพาหนะเหมาจ่าย
(19) ค่าเบี้ยประชุมกรรมการ
(20) ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ใน
ต่างประเทศ
(21) เงินช่วยเหลือการศึกษาบุตรของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่ง
หน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ
(22) เงินตอบแทนพิเศษของข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้น
สูงของอันดับ
(23) เงินตอบแทนพิเศษของลูกจ้างประจำผู้ได้รับค่าจ้างขั้นสูง
ของตำแหน่ง
(24) เงินตอบแทนเหมาจ่ายแทนการจัดหารถประจำตำแหน่ง
(25) เงินตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในเขต
พื้นที่พิเศษ
1.2.2 ค่าใช้สอย หมายถึง รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ (ยกเว้น
บริการสาธารณูปโภค สื่อสารและโทรคมนาคม) รายจ่ายที่เกี่ยวกับการรับรองและพิธีการ และรายจ่าย
ที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติราชการที่ไม่เข้าลักษณะรายจ่ายอื่น ๆ
รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ เช่น
(1) ค่าปักเสาพาดสายภายนอกสถานที่ราชการเพื่อให้ราชการได้ใช้บริการไฟฟ้า รวมถึงค่าติดตั้งหม้อแปลง เครื่องวัด และอุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของการไฟฟ้า
(2) ค่าจ้างเหมาเดินสายไฟฟ้าและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม
รวมถึงการซ่อมแซม บำรุงรักษาหรือปรับปรุงระบบไฟฟ้า การเพิ่มกำลังไฟฟ้า การขยายเขตไฟฟ้า
(3) ค่าวางท่อประปาภายนอกสถานที่ราชการ เพื่อให้ราชการได้ใช้บริการน้ำประปา รวมถึงค่าติดตั้งมาตรวัดน้ำและอุปกรณ์ประปา ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของการประปา
(4) ค่าจ้างเหมาเดินท่อประปาและติดตั้งอุปกรณ์ประปาเพิ่มเติม
รวมถึงการซ่อมแซม บำรุงรักษาหรือปรับปรุงระบบประปา
(5) ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโทรศัพท์พื้นฐาน
(6) ค่าเช่าทรัพย์สิน รวมถึงเงินที่ต้องจ่ายพร้อมกับการเช่า
ทรัพย์สิน เช่น ค่าเช่ารถยนต์ ค่าเช่าอาคารสิ่งปลูกสร้าง ค่าเช่าที่ดิน ค่าเช่ารับล่วงหน้า
ยกเว้นค่าเช่าบ้านและค่าเช่าตู้ไปรษณีย์
(7) ค่าภาษี เช่น ค่าภาษีโรงเรือน เป็นต้น
(8) ค่าธรรมเนียม ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่าน
ธนาคาร
(9) ค่าเบี้ยประกัน
(10) ค่าจ้างเหมาบริการ เพื่อให้ผู้รับจ้างทำการอย่างหนึ่งอย่างใด
ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง แต่มิใช่เป็นการประกอบ ดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับปรุง
ครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
(11) ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สิน เพื่อให้สามารถใช้งานได้
ตามปกติ
กรณีเป็นการจ้างเหมาทั้งค่าสิ่งของและค่าแรงงาน ให้จ่ายจาก ค่าใช้สอย ส่วนกรณีที่ส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สินเองให้ปฏิบัติ ดังนี้
1. ค่าจ้างเหมาแรงงานของบุคคลภายนอกให้จ่ายจากค่าใช้สอย
2. ค่าสิ่งของที่ส่วนราชการซื้อมาใช้ในการซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สินให้จ่ายจากค่าวัสดุ

รายจ่ายเกี่ยวกับการรับรองและพิธีการ เช่น
(1) ค่ารับรอง หมายถึง รายจ่ายในการเลี้ยงรับรองของทางราชการ
(2) ค่ารับรองประเภทเครื่องดื่ม
(3) ค่าใช้จ่ายในพิธีทางศาสนา

รายจ่ายเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติราชการที่ไม่เข้าลักษณะรายจ่าย อื่น ๆ เช่น
(1) ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ในประเทศ) เช่น
ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก ค่าพาหนะ เป็นต้น
(2) ค่าเบี้ยเลี้ยงทหาร หรือตำรวจ
(3) ค่าเบี้ยเลี้ยงพยาน หรือผู้ต้องหา
(4) ค่าของขวัญ ของรางวัล หรือเงินรางวัล
(5) ค่าพวงมาลัย ช่อดอกไม้ กระเช้าดอกไม้ หรือพวงมาลา
(6) ค่าชดใช้ค่าเสียหาย ค่าสินไหมทดแทน กรณีเกิดอุบัติเหตุ
เนื่องจากการปฏิบัติงานราชการ
(7) เงินรางวัลตำรวจคุ้มกันทรัพย์สินของทางราชการ
(8) เงินรางวัลเจ้าหน้าที่
(9) เงินประกันสังคม (ในฐานะนายจ้าง)
(10) ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา
(11) ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา
(12) ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่พยาน
1.2.3 ค่าวัสดุ หมายถึง รายจ่ายดังต่อไปนี้
(1) รายจ่ายเพื่อจัดหาสิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลือง
หมดไป แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิม หรือสิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวร และมีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 5,000 บาท รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระพร้อมกัน เช่น ค่าขนส่ง
ค่าภาษี ค่าประกันภัย ค่าติดตั้ง เป็นต้น
(2) รายจ่ายเพื่อจัดหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน 20,000 บาท
(3) รายจ่ายเพื่อประกอบดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับปรุง ครุภัณฑ์ที่มีวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท ที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้าง ที่มีวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท
(4) รายจ่ายเพื่อประกอบ ดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับปรุง ครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ที่มีวงเงินไม่เกิน 5,000 บาท
(5) รายจ่ายเพื่อซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สินเพื่อให้สามารถ
ใช้งานได้ตามปกติ
- 7 -

1.2.4 ค่าสาธารณูปโภค หมายถึง รายจ่ายค่าบริการสาธารณูปโภค
สื่อสารและโทรคมนาคม รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระพร้อมกัน เช่น ค่าบริการ ค่าภาษี เป็นต้น
ตามรายการ ดังนี้
(1) ค่าไฟฟ้า
(2) ค่าประปา ค่าน้ำบาดาล
(3) ค่าโทรศัพท์ เช่น ค่าโทรศัพท์พื้นฐาน ค่าโทรศัพท์
เคลื่อนที่ รวมถึงบัตรโทรศัพท์ บัตรเติมเงินโทรศัพท์
(4) ค่าบริการไปรษณีย์โทรเลข เช่น ค่าไปรษณีย์

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:44:01

#44
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ไม่รู้ จะออก ไหม เผื่อ เป้น ประโยชน์ นะคะ

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:44:31

#45
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

แก้ตัวอีกครั้ง มีข้อแก้ไขบางข้อนะคะ อันนี้ตอบถูกชัวร์ 555
แต่อ่านดูแล้วเป็นข้อสอบพัสดุ กทม.ใช่มั้ยคะ ถามคุณ W.PIYA
1. ข้อใดเป็นวัสดุ
ก. เครื่องพิมพ์ดีด ข. เครื่องอัดสำเนา
ค. เครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง* ง. เครื่องคอมพิวเตอร์
2. ที่ปรึกษาไทยหมายถึงที่ปรึกษาซึ่ง????
ก. มีสัญชาติไทย
ข. จดทะเบียนไว้กับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษาของกระทรวงการคลัง
ค. จดทะเบียนเป็นที่ปรึกษาไว้กับกรุงเทพมหานคร
ง. ถูกทุกข้อ*
****ความจริงข้อนี้ ถูกทั้ง ก และ ข ค่ะ *****แต่เลือกข้อ ง.เพราะถูกสองข้อแล้วอีกข้อสุดท้ายก็ต้องถูกค่ะ
3. ประกาศประกวดราคา ต้องจัดส่งให้ศูนย์รวมข่าวก่อนวันเปิดซอง ไม่น้อยกว่า????
ก. 15 วัน ข. 20 วัน* ค. 25 วัน ง. 30 วัน
***วิธีจำคือ ศูนย์ = 0 รวม= 1 + 1 รวมเป็น 2*** คำตอบก็คือ 20 วัน
4. การพัสดุหมายถึง
ก. การจัดทำเอง การซื้อ การจ้าง ข. การจ้างออกแบบและควบคุมงาน
ค. การโอน การแลกเปลี่ยน และการจำหน่วยพัสดุ ง ถูกทุกข้อ*
5. ค่าปรับเนื่องจากผู้รับจ้างส่งมอบงานเกินระยะเวลาที่กำหนดในสัญ ญาของงานจ้างเหมาทุกชนิดต้องกำหนดค่าปรับไม่ต่ำกว่าวันละ ????
ก. 100.- บาท* ข. 200.- บาท ค. 300.- บาท ง. 400.- บาท
6. การจัดซื้อโดยวิธีพิเศษต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข????
ก. เป็นพัสดุที่ต้องการซื้อโดยเร่งด่วน ข. เป็นพัสดุที่ซื้อโดยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
ค. เป็นพัสดุที่ต้องการซื้อจากต่างประเทศ ง. ถูกทุกข้อ*
7. คณะกรรมการเปิดซองสอบราคา ประกอบด้วยประธานกรรมการ 1 คน และกรรมการอีกอย่างน้อย????คน
ก. 4 คน ข. 3 คน ค. 2 คน* ง. 1 คน
8. การจ้างเหมาซ่อมหลังคาโรงเรียน วงเงิน 18,500.- บาท จะต้องดำเนินการจ้างโดยวิธี????
ก. วิธีตกลงราคา* ข. วิธีสอบราคา ค. วิธีพิเศษ ง. วิธีกรณีพิเศษ
10. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ????.ปี
ก. 4 ปี ข. 3 ปี ค. 2 ปี ง. 1 ปี
12. หน่วยงานต้องส่งรายงานการตรวจสอบพัสดุประจำปีให้แก่ผู้????.
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน* ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.
13. หลักประกันซองประกวดราคา จะต้องคืนให้แก่ผู้เสนอราคาภายในกำหนด???..วัน นับแต่วันที่ได้พิจารณาในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว (เว้นแต่รายที่คัดเลือกไว้ซึ่งเสนอราคาต่ำสุดไม่เกิน 3 ราย)
ก. 10 วัน ข. 15 วัน* ค. 20 วัน ง. 30 วัน 14. กิจการของคนไทยหมายถึง???..
ก. กิจการที่เป็นของบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล สัญชาติไทย*
ข. กิจการที่ซื้อ ขาย โดยคนไทย
ค. กิจการที่ได้จดทะเบียนกับกรมพาณิชย์ของไทย
ง. กิจการที่ได้ยื่นชำระภาษีเงินได้ที่กรมสรรพากร
15. ทรัพย์สินที่จะนำมาลงทะเบียนทรัพย์สิน แยกได้เป็น???..ประเภท
ก. 5 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท* ง. 2 ประเภท
16. ทรัพย์สินตามรายละเอียด ข้อ 15. ได้แก่????
ก. ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ ข. ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นสังหาริมทรัพย์
ค. ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เป็นวัสดุสิ้นเปลือง ง. ถูกทุกข้อ*
17. เครื่องแบบ จัดเป็นวัสดุประเภท????..
ก. วัสดุงานบ้านงานครัว ข. วัสดุเครื่องแต่งกาย*
ค. วัสดุสำนักงาน ง. วัสดุโฆษณาและเผยแพร่
19. การยืมพัสดุระหว่างหน่วยงานจะต้องได้รับอนุมัติจาก????
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร * ข. หัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบพัสดุนั้น
ค. ปลัดกรุงเทพมหานคร ง. เจ้าหน้าที่พัสดุ
***การยืมพัสดุใช้ภายในหน่วยงานใช้งานบริเวณเดียวกัน ผู้อนุมัติคือ หัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบพัสดุนั้น***
20. ในกรณีที่ผู้ยืมพัสดุประเภทใช้คงรูป ทำพัสดุชำรุดเสียหายควรจะดำเนินการ????
ก. แก้ไขซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม ข. ชดใช้ด้วยพัสดุเดียวกัน
ค. ชดใช้เป็นเงินด้วยสภาพที่เป็นอยู่ ง. ถูกทุกข้อ*
21. ในการยืมพัสดุประเภทใช้สิ้นเปลือง ระหว่างหน่วยงานจะต้อง????.
ก. ขอยืมด้วยวาจา ข. ขอยืมโดยทำเป็นหนังสือ*
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข้อ ข. ง. ผิดทุกข้อ
22. เมื่อครบกำหนดเวลาการยืมพัสดุ เจ้าหน้าที่ต้องติดตามทวงคืนภายในเวลา????..
ก. 3 วัน ข. 7 วัน* ค. 10 วัน ง. 15 วัน
23. การเบิกพัสดุภายในหน่วยงาน กระทำโดยวิธี????
ก. เซ็นชื่อรับในบัญชีวัสดุ ข. ใช้ใบเบิกพัสดุ
ค. ทำหนังสือขอเบิก ง. ถูกทุกข้อ*
24. การตรวจสอบพัสดุประจำปี ปลัดกรุงเทพมหานครหรือหัวหน้าหน่วยงานแต่งตั้งให้?????.เป็นกรรมการตรวจสอบการรับ-จ่ายพัสดุ
ก. เจ้าหน้าที่พัสดุ ข. เจ้าพนักงานพัสดุ
ค. หัวหน้างานพัสดุ ง. เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่พัสดุ
25. การขายพัสดุที่ชำรุดเสื่อมสภาพ ปกติจะต้องดำเนินการโดยวิธี????
ก. ขายทอดตลาด* ข. ขายโดยวิธีประมูลราคา ค. ขายโดยวิธีตกลงราคา ง. ขายโดยวิธีสอบราคา
26. สังหาริมทรัพย์คือ????
ก. ทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้* ข. ทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน
ค. ทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ ง. ทรัพย์ที่มีขนาดเล็ก
27. อสังหาริมทรัพย์คือ????
ก. ทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้ ข. ทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้*
ค. ทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ ง. ทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน
28. สังหาริมทรัพย์ได้แก่???.
ก. บ้าน ที่ดิน ข. นาฬิกา สร้อยคอ
ค. รถยนต์ เก้าอี้ ง. ถูกทั้งข้อ ข. และข้อ ค.*
29. การจำหน่ายเป็นสูญ พัสดุที่มีราคาซื้อ หรือ ได้มารวมกันไม่เกิน 200,000 บาท ???..เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติ
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. ผู้อำนวยการสำนักการคลัง
ค. ปลัดกรุงเทพมหานคร ง. ถูกทุกข้อ
*** ไม่เกิน 2 แสน ผู้มีอำนาจพิจารณาอนุมัติคือ หัวหน้าฝ่ายบริหารของหน่วยงานท้องถิ่นเช่น เทศบาลคือนายกเทศมนตรี,อบจ.คือนายกอบจ.,พัทยาคือปลัดเมืองพัทยา
ถ้าเกิน 2 แสนคือผู้ว่าฯ***

30. การลงจ่ายพัสดุออกจากทะเบียน ให้ลงจ่ายทันที แล้วจะต้องแจ้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินทราบภายใน???.วัน
ก. 15 วัน ข. 25 วัน ค. 30 วัน นับแต่วันลงจ่าย* ง. 45 วัน
31. พัสดุ หมายถึงอะไร
ก. วัสดุ ข. ครุภัณฑ์ ค. ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ง. ถูกทุกข้อ*
33. หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบการปฏิบั ติของเจ้าพนักงานพัสดุ คือ??.
ก. สำนักงาน ป.ป.ป. ข. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน*
ค. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายใน ง. ถูกทุกข้อ
34. เจ้าพนักงานพัสดุซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จะต้องรับโทษ???..
ก. โทษทางวินัย ข. โทษทางคดีอาญา ค. โทษทางคดีแพ่ง ง. ถูกทุกข้อ*
35. คำว่า ?งบประมาณ? คือ???..
ก. เงินที่ใช้จ่ายในระบบราชการ ข. วงเงินที่จะใช้ซื้อหรือจ้างโดยประมาณ
ค. งบดุลของส่วนราชการโดยประมาณ ง. ประมาณการในการจัดซื้อ/จัดจ้าง*
36. เจ้าพนักงานพัสดุจะตรวจสอบรายละเอียดงบประมาณได้จากเอกสาร???.
ก. พรบ.งบประมาณรายจ่าย
ข. สมุดบัญชีเงินฝาก
ค. ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่าย
ง. ข้อ ก. และข้อ ค.*
37. ราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เป็นราคาที่ส่วนราชการใช้เป็น???..
ก. ราคาเฉลี่ย ข. ราคาท้องตลาด ค. ราคาสูงสุด ง. ผิดทุกข้อ
38. ผู้กำหนดราคามาตรฐานครุภัณฑ์ คือ????.
ก. กระทรวงการคลัง ข. สำนักงบประมาณ ค. กรมบัญชีกลาง ง. ผิดทุกข้อ
39. ผู้ที่แจ้งราคาวัสดุก่อสร้างในส่วนราชการต่าง ๆ ทราบ คือ????
ก. กรมโยธาธิการ ข. สำนักงบประมาณ ค. กระทรวงการคลัง ง. กระทรวงพาณิชย์
40. หากท่านต้องการทราบแหล่งผลิต หรือ สถานที่ขายพัสดุที่ต้องการจัดซื้อ สามารถหาได้จาก???.
ก. หนังสือพิมพ์ ข. วิทยุ โทรทัศน์
ค. สมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์หน้าเหลือง ง. ถูกทุกข้อ*
41. หากกำหนดค่าปรับเมื่อส่งพัสดุเกินกำหนดเวลา อัตราร้อยละ .02 ต่อวัน หมายความว่าราคาพัสดุ 1,000,000 บาท จะต้องปรับวันละ????..
ก. 2,000 บาท ข. 20,000 บาท ค. 200 บาท * ง. 20 บาท
*** 1,000,000 x 0.02 / 100 = 200 ***
42. หากมีเหตุขัดข้องในการจัดซื้อหรือจัดจ้าง ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามที่ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการพัสดุ กำหนดไว้ ผู้มีอำนาจยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัติตาม คือ ????
ก. คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ง. ยกเว้นไม่ได้
43. ในการจัดซ้อ จัดจ้าง หน่วยงานจะไม่ทำสัญญา โดยทำข้อตกลงเป็นหนังสือแทน???..
ก. ได้* ข. ไม่ได้
ค. ได้บางกรณี ง. ได้เฉพาะวงเงินไม่เกิน 500 บาท
44. เอกสารประกวดราคา คือ???
ก. ประกาศประกวดราคา ข. รายละเอียดประกอบประกาศประกวดราคา
ค. ใบเสนอราคา ง. ถูกทุกข้อ*
45. ในการเปิดซองประกวดราคา ผู้ที่อ่านราคาที่เสนอทุกรายให้ทราบทั่วกัน คือ????
ก. คณะกรรมการรับและเปิดซองประกวดราคา
ข. คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา*
ค. เจ้าหน้าที่พัสดุ
ง. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ
46. โต๊ะที่ท่านนั่งทำข้อสอบขณะนี้ หากท่านได้รับมอบหมายให้ควบคุมดูแล ท่านจะต้องลงบัญชีประเภท????.
ก. บัญชีโต๊ะ ข. ทะเบียนครุภัณฑ์
ค. บัญชีพัสดุ ง. ทะเบียนสังหาริมทรัพย์
***อัน นี้ไม่แน่ใจค่ะ เพราะสับสนระหว่างคำว่า วัสดุ และ ครุภัณฑ์ เท่าที่จำได้คือ วัสดุ ราคาไม่เกิน 5,000 แต่ ครุภัณฑ์ ราคาเกิน 5,000 แต่คิดว่าน่าจะเป็นทะเบียนสังหาริมทรัพย์***

47. เจ้าพนักงานพัสดุจะสามารถนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการควบคุ มพัสดุได้อย่างไร
ก. ช่วยเก็บข้อมูลของพัสดุที่รับผิดชอบ
ข. ช่วยพิมพ์รายงานการรับ-จ่ายพัสดุ
ค. ใช้บทบัญชีวัสดุ ทะเบียนครุภัณฑ์ ทะเบียนอสังหาริมทรัพย์
ง. ใช้ได้ทุกข้อ*
48. กระดาษที่ส่วนราชการใช้ในการจัดทำหนังสือราชการ เอกสารราชการส่วนใหญ่ จัดซื้อจากที่???.
ก. บริษัทกระดาษไทย ข. โรงงานผลิตกระดาษแห่งประเทศไทย
ค. โรงงานกระดาษบางปะอิน ง. จัดซื้อจากผู้เสนอราคาต่ำสุด*
49. การซื้อและการจ้างของกรุงเทพมหานคร ถือปฏิบัติตามระเบียบ หรือ กฎหมาย????.
ก. ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ พ.ศ. 2532
ข. ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ พ.ศ. 2538
ค. ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการพัสดุของการพาณิชย์ของกรุงเทพมห านคร พ.ศ. 2538
ง. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535
50. อำนาจในการสั่งซื้อ สั่งจ้าง ของปลัดกรุงเทพมหานคร โดยวิธีประกวดราคา มีวงเงิน???.
ก. ไม่เกิน 5 ล้านบาท ข. ไม่เกิน 10 ล้านบาท
ค. ไม่เกิน 20 ล้านบาท ง. ไม่เกิน 40 ล้านบาท
52. การกำหนดมูลค่าหลักประกันซอง และหลักประกันสัญญา โดยทั่วไปกำหนดในอัตรา???..
ก. ร้อยละ 20 ข. ร้อยละ 15 ค. ร้อยละ 10 ง. ร้อยละ 5*

53. โรงพยาบาลกลาง ต้องการจัดซื้อเครื่องเอ็กซ์เรย์ 1 เครื่อง วงเงิน 1,000,000 บาท ต้องดำเนินการโดย???.
ก. วิธีสอบราคา* ข. วิธีประกวดราคา ค. วิธีพิเศษ ง. วิธีกรณีพิเศษ
***วิธีตกลงราคา = ไม่เกิน 1 แสน
วิธีสอบราคา = 1 แสน - 2 ล้าน
วิธีประกวดราคา= 2 ล้านขึ้นไป
วิธีกรณีพิเศษ=เฉพาะจัดซื้อยาเท่านั้น ***

54. อำนาจในการอนุมัติให้ซื้อตาม ข้อ 53. เป็นของ???.
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ง. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล
55. การจ่ายเงินล่วงหน้ากรณีจัดซื้อ จัดจ้าง โดยวิธีพิเศษจ่ายได้ไม่เกิน???
ก. ร้อยละ 5 ข. ร้อยละ 10 ค. ร้อยละ 15* ง. ร้อยละ 20
56. การจัดซื้อยาจากองค์การเภสัชกรรม วงเงิน 60,000 บาท จะต้องดำเนินการโดย???..
ก. วิธีตกลงราคา ข. วิธีสอบราคา ค. วิธีพิเศษ ง. วิธีกรณีพิเศษ*
57. เครื่องถ่ายเอกสารเป็นพัสดุประเภท???..
ก. วัสดุสำนักงาน ข. วัสดุโฆษณาและเผยแพร่
ค. ครุภัณฑ์สำนักงาน ง. ครุภัณฑ์โฆษณาและเผยแพร่
***ข้อ นี้ก็สับสนค่ะ เพราะคำว่าวัสดุสำนักงานและครุภัณฑ์สำนักงาน มันคล้ายๆกัน แต่คิดว่าน่าจะเป็น ค.ครุภัณฑ์สำนักงาน ***ผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ
58. การแลกเปลี่ยนพัสดุระหว่างหน่วยงานเป็นอำนาจของ????
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ง. เจ้าหน้าที่พัสดุ

59. งานจ้างเหมาปกติทั่วไป จะต้องทำการตรวจรับงานให้แล้วเสร็จภายใน???วันทำการนับแต่วันที่ได้รับแจ้งขอส่งมอบงาน
ก. 10 วันทำการ ข. 5 วันทำการ ค. 3 วันทำการ* ง. 2 วันทำการ
60. สำนักงานเขตพระนครจัดซื้อเครื่องเสียงสำหรับห้องประชุม วงเงิน 800,000 บาท จะต้องดำเนินการโดย???..
ก. วิธีตกลงราคา ข. วิธีสอบราคา ค. วิธีประกวดราคา ง. วิธีพิเศษ
61. อำนาจอนุมัติให้ซื้อ ตามข้อ 60. เป็นของ????
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้อำนวยการเขต ง. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ
62. การจ่ายเงินล่วงหน้าเป็นค่าจ้างที่ปรึกษา จ่ายได้ไม่เกินร้อยละ????
ก. ร้อยละ 10 ข. ร้อยละ 15* ค. ร้อยละ 20 ง. ร้อยละ 25
63. น้ำมันเชื้อเพลิงของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการจัดซื้อโดย??????
ก. วิธีสอบราคา ข. วิธีประกวดราคา ค. วิธีพิเศษ ง. วิธีกรณีพิเศษ
64. การสอบราคาจัดซื้อพัสดุ ต้องปิดประกาศโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า???.
ก. 20 วัน ข. 15 วัน ค. 10 วัน* ง. 7 วัน
65. ครุภัณฑ์งานบ้านงานครัว คือ????.
ก. เครื่องตัดหญ้า ข. รถเข็น* ค. รถตักล้อยาง ง. วิทยุ-เทป
68. ข้อใดเป็นครุภัณฑ์
ก. ไม้สตาฟพ์แบบพับได้ ข. เต้นท์
ค. หุ่นจำลอง ง. หม้อแปลงไฟฟ้า

***สับสนอีกแล้ว*** ง.หม้อแปลงไฟฟ้าเป็นวัสดุ ตัดทิ้งไป
69. ใบเสนอราคาในการสอบราคา หรือประกวดราคา ต้องติดอากรแสตมป์หรือไม่ ถ้าต้องติดอากรแสตมป์ จะต้องติดมูลค่า????..
ก. ไม่ต้องติดอากรแสตมป์ ข. ติดอากรแสตมป์ร้อยละ 1 ของราคาที่เสนอ
ค. ติดอากรแสตมป์ร้อยละ 5 ของราคาที่เสนอ ง. ติดอากรแสตมป์ร้อยละ 0.1 ของราคาที่เสนอ*

***จำไว้ว่า 1,000 ละ 1 บาท***
70. ข้อใดใช้เป็นหลักประกันสัญญาได้
ก. เงินสด ข. พันธบัตรรัฐบาลไทย
ค. หนังสือค้ำประกันของธนาคาร ง. ใช้ได้ทุกข้อ*
71. การจัดซื้อเครื่องฉายสไลด์ ต้องเบิกจ่ายเงินจากงบประมาณ???.
ก. หมวดค่าใช้สอย ข. หมวดค่าครุภัณฑ์
ค. หมวดค่าวัสดุ ง. หมวดค่าสาธารณูปโภค
72. ปีงบประมาณหมายถึง???.
ก. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 กันยายนปีต่อไป*
ข. วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม
ค. ผิดทั้ง ข้อ ก. และข้อ ข.
ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. และข้อ ข.
73. คณะกรรมการตรวจสอบพัสดุประจำปี จะต้องรายงานผลการตรวจสอบภายใน???วัน
ก. 10 วัน ข. 15 วัน
ค. 30 วันทำการ นับแต่วันเริ่มตรวจสอบ * ง. 45 วัน
74. คณะกรรมการตรวจสอบพัสดุ เมื่อได้รับการแต่งตั้งจะต้องเริ่มตรวจสอบเมื่อ???.
ก. เริ่มตรวจสอบเมื่อใดก็ได้ ข. เริ่มวันทำการแรกของเดือนตุลาคม*
ค. เริ่มเมื่อได้รับแต่งตั้ง ง. เริ่มเมื่อใดก็ได้ภายใน 30 วัน
75. พัสดุใดเมื่อหมดความจำเป็นหรือหากใช้ต่อไปจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ ายมาก เจ้าหน้าที่พัสดุควร???.
ก. ขออนุมัติจำหน่าย ข. ขออนุมัติโอนให้แก่หน่วยงานอื่นที่ต้องการ
ค. ขออนุมัติแปรสภาพหรือทำลาย ง. ถูกทุกข้อ*
76. พัสดุใดที่หมดความจำเป็นที่จะใช้ทางราชการแล้ว และมีสภาพชำรุดเสื่อมสภาพ เจ้าหน้าที่พัสดุจะดำเนินการ???
ก. ขออนุมัติจำหน่าย ข. ขออนุมัติแปรสภาพหรือทำลาย
ค. เก็บอนุรักษ์ รักษาไว้ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. และข้อ ข.*
77. การขายทอดตลาด คือ????..
ก. การนำพัสดุไปวางขายทั่วไป ข. การนำพัสดุไปวางขายในตลาดนัด
ค. การประมูลขายด้วยวาจา* ง. ผิดทุกข้อ
78. ผู้มีอำนาจอนุมัติได้ขายทอดตลาด????..
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. เจ้าหน้าที่พัสดุ
ค. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ง. ปลัดกรุงเทพมหานคร
79. การโอนพัสดุระหว่างหน่วยงาน จะต้องได้รับอนุมัติจากผู้????
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. หัวหน้าหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพัสดุ ง. ถูกทุกข้อ
80. การตรวจสอบพัสดุประจำปี หมายความว่า?????
ก. การตรวจสอบพัสดุเมื่อสิ้นปีงบประมาณ* ข. การตรวจสอบพัสดุเมื่อสิ้นปี
ค. การตรวจสอบพัสดุเมื่อใดก็ได้ ง. ถูกทั้งข้อ ก. และข้อ ข.
81. กฎหมายกำหนดให้กรุงเทพมหานครมีฐานะเป็นนิติบุคคล โดย???..เป็นผู้มีอำนาจทำนิติกรรม
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ง. ไม่มีข้อใดถูก
82. ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ คือ????.
ก. ระเบียบ ข. กฎหมาย
ค. คำสั่งของสภากรุงเทพมหานคร ง. คำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
83. เมื่อเป็นนิติบุคคลแล้วสามารถที่จะ????..
ก. เป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ ฟ้องร้องคดีความได้
ข. ออกกฎหมายได้
ค. ทำงานบริการประชาชนได้
ง. ถูกทุกข้อ*
84. คำว่า ?ส่วนราชการ? ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ หมายถึง???
ก. หน่วยงานราชการที่ไม่สังกัดกรุงเทพมหานคร
ข. สำนัก กอง สำนักงานเขต โรงพยาบาล
ค. หน่วยงานราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร
ง. หน่วยงานเทียบเท่ากอง
85. คำว่า ?เจ้าหน้าที่พัสดุ? ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ หมายความว่า???.
ก. ผู้ที่ดำรงตำแหน่งซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับพัสดุ
ข. ผู้ที่มีชื่อตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงานพัสดุ
ค. ผู้ที่ปลัดกรุงเทพมหานครแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ
ง. ถูกทุกข้อ
86. ถ้ากระทรวงอุตสาหกรรมได้ประกาศมาตรฐานอุตสาหกรรมพัสดุที่ท่านต้ องการจะจัดซื้อแล้ว ท่านจะต้อง???
ก. กำหนดคุณลักษณะพัสดุที่ต้องการซื้อ ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ข. กรณีมีงบประมาณพอจ่าย ให้ซื้อพัสดุที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
ค. หากพัสดุที่จะซื้อมีคุณสมบัติต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ จะต้องต่อรองราคาให้ลดลงอีกร้อยละสิบ
ง. ถูกทุกข้อ*
87. ?ผู้สั่งซื้อ? ในการจัดซื้อของกรุงเทพมหานคร หมายความว่า????.
ก. ผู้มีอำนาจสั่งอนุญาตให้ซื้อ ข. เจ้าหน้าที่พัสดุ
ค. ผู้ที่สั่งการให้ดำเนินการจัดซื้อ* ง. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ
88. การประกวดราคาของกรุงเทพมหานคร ในปัจจุบันกระทำโดยวิธีให้ผู้เข้าประกวดราคา???.
ก. ยื่นซองเสนอราคาต่อคณะกรรมการรับและเปิดซองประกวดราคา
ข. ยื่นซองเสนอราคาต่อคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
ค. ยื่นซองเสนอราคาต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ยื่นซองเสนอราคาต่อเจ้าหน้าที่พัสดุ
89. ในการจัดซื้อพัสดุของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีวงเงินซื้อหรือจ้างไม่เกิน 10,000 บาท จะแต่งตั้งกรรมการตรวจรับเพียง 1 คน ได้หรือไม่
ก. ได้
ข. ได้เฉพาะงานจ้าง ค. ไม่ได้ ง. ได้เฉพาะงานจัดซื้อ
90. ในการจัดซื้อพัสดุของกรุงเทพมหานคร การตรวจสอบว่าพัสดุที่ซื้อ มีจำนวนถูกต้อง และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามใบสั่งซื้อ เป็นหน้าที่ของ???..
ก. เจ้าหน้าที่พัสดุ ข. หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ
ค. กรรมการตรวจรับพัสดุ ง. ข้อ ก. และข้อ ค.
91. ปกติส่วนราชการจัดซื้อพัสดุโดยตัดสินที่????.
ก. ราคาต่ำสุด ข. คุณภาพดีที่สุด
ค. ราคาต่ำสุดและมีคุณภาพตรงตามที่กำหนด ง. ราคาที่จัดซื้อครั้งสุดท้าย
**ข้อนี้สับสนค่ะ ความจริงอยากตอบข้อ ค. แต่ก็สับสนระหว่าง ก. และ ค.***เอาเป็นว่า ตอบ ข้อ ก.ละกันนะคะ
เพราะบางทีการประมูลได้ในราคาต่ำสุดก็ไม่ใช่ว่าจะได้คุณภาพตรงที่กำหนด บางทีอา

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:45:11

#46
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

สับสน แรง นะ
เราจะ สอบ อะไรกันแน่นะ
พัสดุ ก็ออก
งบประมาณก้ออก
ตอม ก็ ออก
สารบรรณก็ออกนะ
แล้ว ต้องอ่าน พรบ. ข้าราชการ อีกนะ
เผื่อๆๆ ไปนะ

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:46:55

#47
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

สรุปเกี่ยวกับระเบียบข้าราชการพลเรือน

1. ขรก.พลเรือนเป็นผู้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในกระทรวง ทบวง กรม ฝ่ายพลเรือนตามพระราชบัญญัตินี้

2. คณะรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดวัน เวลาทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปี และการลาหยุดราชการของข้าราชการพลเรือน

3. ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่อง
• เพิ่มพูนความรู้ทักษะ
• เพิ่มพูนทัศนคติที่ดี
• เพิ่มพูนคุณธรรมและจริยธรรม

4. ใน อ.ก.พ.จังหวัด ไม่มีทรงคุณวุฒิด้านท้องถิ่น

5. เงินเดือนเป็นอันดับ และขั้น

6. ตำแหน่งของเสมียนตราอำเภอคือ เจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี 6

7. ข้าราชการประจำต่างประเทศพิเศษ ออกจากราชการเมื่อ
• ตาย พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ
• ได้รับอนุมัติจาก รมต.เจ้าสังกัดให้ลาออก
• คณะ รมต.ที่อนุมัติให้แต่งตั้งออกจากตำแหน่งทั้งคณะ หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดออกจากตำแหน่ง

8. ข้าราชการพลเรือนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ ไปเป็นข้าราชการประจำต่างประเทศพิเศษได้ แต่ข้าราชการประจำต่างประเทศพิเศษ จะโอนกลับไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญไม่ได้


9. ระบบ P.C. เริ่มใช้ ปี 2518

10. จรรยาบรรณของข้าราชการพลเรือนตามข้อบังคับของ ก.พ.
• จรรยาบรรณต่อตนเอง (ข้อ 1-3)
• จรรยาบรรณต่อหน่วยงาน (ข้อ 4-7)
• จรรยาบรรณต่อผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้ ผบช.และผู้ร่วมงาน (ข้อ 8-12)
• จรรยาบรรณต่อประชาชนและสังคม (ข้อ 13-16)

11. มาสายกลับก่อน (มาตรา 92 ไม่อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ)

12. เช้าชามเย็นชาม (มาตรา 83 ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดผลดี)

13. ดื่มสุรามึนเมาในเวลาราชการ (มีความผิดฐานประพฤติชั่ว)

14. ทำ บ.ป.2 สูญหายโดยไม่จงใจ (ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ)

15. ขาดราชการติดต่อกันเกิน 15 วัน (ลงโทษไล่ออกตั้งแต่วันที่ละทิ้งหน้าที่ราชการเป็นต้นไป)
16. กรณีที่อาจสั่งพักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎ ก.พ. ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2538) เช่นถูกฟ้องคดีอาญา ในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และพนักงานอัยการมิได้เป็นทนายแก้ต่างให้

17. ในคำสั่งลงโทษ ต้องมี เรื่องที่กระทำผิด ฐานความผิด ระดับโทษที่จะลง และระยะเวลาที่ผู้ถูกลงโทษสามารถอุทธรณ์ได้

18. การตัดเงินเดือน
• อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 % ไม่เกิน 3 เดือน ขั้นเงินเดือน 1 ขั้น
• สูงกว่ากอง (ปจ.) 5 % ไม่เกิน 2 เดือน
• เทียบเท่ากอง (นอภ.) 5 % ไม่เกิน 1 เดือน

19.การสอบสวนทางวินัย ต้องแล้วเสร็จภายใน 270 วัน

20.การ สอบสวนจะเสียไปทั้งหมด ถ้าการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนไม่ถูกต้อง เช่นไม่มีนิติกรหรือผู้รับปริญญาทางกฎหมาย หรืออบรมหลักสูตรทางวินัยหรือมีประสบการณ์ด้านการดำเนินการวินัย

21.กรณี ลาออกแล้ว ไม่มาปฏิบัติราชการติดต่อกัน 15 วันนับแต่วันลาออก โดยผู้บังคับบัญชาไม่สั่งการอย่างหนึ่งอย่างใด ในเรื่องการลาออกนั้น ถือว่าไม่มีความผิด เพราะลาออกจากราชการแล้ว

22.ข้าราชการพลเรือน สามัญผู้ใด ถึงแก่ความตายเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ คณะรัฐมนตรีมีอำนาจเลื่อนขั้นเงินเดือนให้ผู้นั้นเป็นกรณีพิเศษเพื่อ ประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญ

23.ผบช.มีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติราชการ ของผู้ใต้ ผบช. เพื่อใช้ในการ
• ประกอบการพิจารณาแต่งตั้ง
• เลื่อนขั้นเงินเดือน
• พัฒนาข้าราชการ
• เพิ่มพูนประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการ

24. วันใช้บังคับ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน คือวันที่ 30 มีนาคม 2535

25.ข้า ราชการฝ่ายพลเรือน คือผู้ซึ่งได้รับบรรจุและแต่งตั้งตามกฎหมายให้รับราชการโดยได้รับเงินเดือน จากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือน ในกระทรวง ทบวง กรม ฝ่ายพลเรือน

26.ก.พ.ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารงานบุคคลจำนวนกี่คน
ตอบ ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน โดยต้องเป็น หรือเคยเป็นข้าราชการไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือเทียบเท่า ถ้าต่ำกว่านี้ให้มีได้ไม่เกิน 3 คน

27. ข้อต้องห้ามของกรรมการ ก.พ. มีอะไรบ้าง
ตอบ ขรก.การเมือง กก.พรรคการเมือง เจ้าหน้าที่พรรคการเมือง

28. กรรมการ ก.พ.ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี
ตอบ 2 ปี ถ้าว่างลงให้เลือกภายใน 30 วัน หากเหลือไม่ถึง 180 วัน ไม่ต้องก็ได้ (ถ้ายังมีกรรมการเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 5 คน ยังไม่ต้องเลือกก็ได้)

29. องค์ประชุมในการประชุม ก.พ.ต้องเป็นไปอย่างไร
ตอบ กึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด

30. ถ้าประธานไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ต้องปฏิบัติอย่างไรจึงจะสามารถดำเนินการประชุม ก.พ. ได้
ตอบ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่แทน

31. การตั้ง อ.ก.พ.วิสามัญเพื่อทำหน้าที่พิจารณาเรื่องการดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์ หรือการร้องทุกข์ ต้องตั้งจากกรรมการซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งและข้าราชการพลเรือน ผู้ได้รับเลือกจากข้าราชการพลเรือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด กฎ ก.พ. อย่างละกี่คน
ตอบ อย่างน้อย 2 คน กับจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนอนุกรรมการทั้งหมด

32. ผู้บังคับบัญชาข้าราชการและบริหารราชการของสำนักงาน ก.พ.คือใคร
ตอบ เลขาธิการ ก.พ.

33. อ.ก.พ.สามัญ คือ
ตอบ อ.ก.พ.กระทรวง ทบวง อ.ก.พ.กรม อ.ก.พ.จังหวัด

34. ข้าราชการพลเรือมีกี่ประเภท
ตอบ 3 ประเภท ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ และข้าราชการพลเรือนประจำต่างประเทศพิเศษ

35. มติของ ก.พ. ในการประชุมปรึกษา เพื่อยกเว้นผู้ขาดคุณสมบัติให้เข้ารับราชการ ถือคะแนนเสียงอย่างไร
ตอบ 4 ใน 5 ของกรรมการในที่ประชุม โดยลงมติด้วยวิธีลับ

36. การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 ในส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมและไม่สังกัดกระทรวงหรือทบวง แต่อยู่ในบังคับบัญชาของรัฐมนตรี หรือในสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี ปฏิบัติตามข้อใด
ตอบ 1.ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด นำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติ
2.ถ้าคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นผู้สั่งบรรจุ
3.นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง

37. ใครเป็นผู้อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 11
ตอบ คณะรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเป็นผู้สั่งบรรจุ

38. ใครเป็นผู้อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10
ตอบ คณะรัฐมนตรี โดยปลัดกระทรวงเป็นผู้สั่งบรรจุ

39. ใครเป็นผู้สั่งบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับ 7 ลงมา
ตอบ อธิบดี (ระดับ 8 ก็ได้ โดยอธิบดีเสนอ ปลัดกระทรวง เห็นชอบ และอธิบดีเป็นผู้สั่งบรรจุแต่งตั้ง)

40.ข้า ราชการพลเรือนสามัญที่กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษปลดออก ไล่ออก และถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่ห้ามมิให้ลดโทษลงต่ำกว่าข้อใด
ตอบ ปลดออก

41.ข้าราชการพลเรือนผู้ลงโทษปลดออก จะมีผลต่อบำเหน็จบำนาญอย่างไร
ตอบ มีสิทธิรับบำเหน็จบำนาญเสมือนลาออก

42.การต่อเวลาให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ต้องออกจากราชการ เพราะเกษียณอายุทำได้หรือไม่
ตอบ ไม่ได้ เพราะขัดต่อ พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน

43.ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 52 มีอำนาจยับยั้งการลาออกของข้าราชการพลเรือนสามัญ ได้ไม่เกินกี่วัน นับแต่วันลาออก
ตอบ 90 วัน

44.นายสมชายยื่นใบลาออกเพื่อลงสมัคร ส.จ. ในจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2543 การลาของเขาจะมีผลเมื่อใด
ตอบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543

45. การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือน ต้องกระทำภายในกี่วันนับแต่วันทราบคำสั่ง
ตอบ 30 วัน

46. การอุทธรณ์คำสั่งของผู้บังคับบัญชาในราชการบริหารส่วนภูมิภาคที่ต่ำกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดให้อุทธรณ์ต่อใคร
ตอบ อ.ก.พ.จังหวัด

47. การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษปลดออก หรือไล่ออก ให้อุทธรณ์ต่อ ก.พ. ภายในกี่วันนับแต่วันทราบคำสั่ง
ตอบ 30 วัน

48. การอุทธรณ์คำสั่งของปลัดกระทรวงต้องอุทธรณ์ต่อใคร
ตอบ ก.พ.

49.การร้องทุกข์ต่อ ก.พ. ต้องกระทำภายในกี่วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง
ตอบ 30 วัน

50. ข้าราชการพลเรือน ปัจจุบันรับเงินเดือนตาม พ.ร.บ.เงินเดือนฉบับใด
ตอบ พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ต.ค. 2537 (ปีงบประมาณ 2538)

51. กงช. ย่อมาจากอะไร
ตอบ คณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่หลัก ในการเสนอแนะและให้คำปรึกษาแก่ ครม. เกี่ยวกับเงินเดือน

52. เงินเดือนขั้นที่ต่ำที่สุด และขั้นที่สูงที่สุด
ตอบ ต่ำที่สุด 4,100 บาท และสูงที่สุด 59,090 บาท

53. ข้าราชการพลเรือนสามัญ ออกจากราชการไปรับราชการทหารตามกฎหมาย กลับเข้ารับราชการใหม่ในหน่วยงานเดิม ต้องยื่นคำร้องภายในกี่วัน นับจากวันพ้นจากราชการทหาร
ตอบ 180 วันนับจากวันพ้นจากราชการทหาร

54.ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งอธิบดี
ตอบ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัด คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ และปลัดกระทรวงสั่งบรรจุ นายกเสนอโปรดเกล้าแต่งตั้ง

55.ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ
ตอบ อธิบดีเสนอปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงให้ความเห็นชอบ และอธิบดีสั่งบรรจุ

56.ข้าราชการพลเรือนสามัญ อาจได้รับบำเหน็จความชอบ เป็น
ตอบ คำชมเชย เครื่องเชิดชูเกียรติ รางวัล การได้เลื่อนขั้นเงินเดือน เป็นต้น

57. ข้าราชการพลเรือนสามัญ สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้หรือไม่
ตอบ ได้

58. อ.ก.พ.จังหวัด มีทั้งหมดกี่คน
ตอบ 11 คน

59. ตำแหน่งสำหรับหัวหน้าหน่วยงานที่สูงกว่ากอง ตามกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 กำหนดให้เป็นระดับใด
ตอบ ระดับ 9

60. ตามกฎหมายระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจแต่งตั้ง (ย้าย) ข้าราชการในตำแหน่งใดได้บ้าง
ตอบ ข้าราชการตั้งแต่ระดับ 7 ลงมา ที่มิใช่หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด

61. การรักษาการในตำแหน่ง ถือว่าเป็นการแต่งตั้ง และวิธีการใดบ้างที่ถือว่าเป็นการแต่งตั้ง
ตอบ การรักษาการในตำแหน่งถือว่าไม่เป็นการแต่งตั้ง ส่วนการเลื่อนระดับ การย้าย การโอน ถือว่าเป็นการแต่งตั้ง

62. ผู้มีอำนาจในการกำหนดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ในส่วนราชการต่าง ๆ ได้แก่
ตอบ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนสามัญ

63. ตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทใด ได้รับทั้งเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
ตอบ ประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ และประเภทผู้บริหารระดับสูง

64. ตำแหน่ง ขรก. ระดับ 10 ที่มีลักษณะบริหารไม่ควรปฏิบัติหน้าที่เดียวติดต่อกันนานเกินกว่ากี่ปี
ตอบ 4 ปี

65. โทษทางวินัยในข้อใดข้างล่างนี้ ที่เรียงจากเบาไปหาหนัก
ตอบ ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ลดขั้นเงินเดือน ปลดออก ไล่ออก

66. ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งลงโทษตัดเงินเดือนข้าราชการที่กระทำผิดวินัยไม่ร้ายแรง
ตอบ 5 % ไม่เกิน 3 เดือน
67. ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดถึงแก่ความตาย เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ราชการ ผู้ที่จะเลื่อนขั้นเงินเดือนให้ผู้นั้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อประโยชน์ในการคำนวณบำเหน็จบำนาญ คือผู้ใด
ตอบ คณะรัฐมนตรี

68. ประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ได้แก่
ตอบ นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

69.กรณีปลัดจังหวัดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง การดำเนินการสั่งลงโทษอย่างร้ายแรงอย่างใด
ตอบ เสนอ อ.ก.พ.กระทรวงมีมติ แล้วให้ ปมท.สั่งลงโทษ

70.การสั่งลดโทษหรือเพิ่มโทษ เป็นลดขั้นเงินเดือน ตัดเงินเดือน หรือภาคทัณฑ์ ผลของคำสั่งจะใช้บังคับเมื่อใด
ตอบ นับแต่วันที่คำสั่งเดิมใช้บังคับ

71.กรณีลูกจ้างประจำในภูมิภาคถูกสอบสวนตามมาตรา 115 แล้วมีพฤติการณ์หย่อนความสามารถในอันที่จะปฏิบัติราชการ ต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ เสนอ ผวจ.มีคำสั่งให้ออก

72.การสั่งพักข้าราชการ จะสั่งพักย้อนหลัง ไปก่อนวันออกคำสั่งได้ในกรณีใด
ตอบ ผู้ถูกสั่งพักถูกควบคุมในคดีอาญาก่อนออกคำสั่งพัก

73.ปลัดจังหวัดมีอำนาจสั่งลงโทษข้าราชการได้เท่าไร
ตอบ ตัดเงินเดือนไม่เกิน 5 % ไม่เกิน 2 เดือน

74.ถ้า ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงรวม 3 คน การประชุมเพื่อพิจารณาว่ามีพยานหลักฐานใด สนับสนุนข้อกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำการใด เมื่อใด อย่างไร และเป็นความผิดกรณีใด มาตราใด ต้องมีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุมกี่คน
ตอบ 3 คน

75.การอุทธรณ์คำสั่งลงโทษ จะให้ผู้อื่นอุทธรณ์แทนได้หรือไม่
ตอบ ไม่ได้

76.กรณีใดบ้างที่ทำให้การสอบสวนเสียไปทั้งหมด
ตอบ การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนไม่ถูกต้อง

77.การ สอบสวนถ้าไม่เสร็จภายในกี่วัน ที่ประธานกรรมการต้องรายงานผู้สั่งแต่งตั้งเพื่อรายงาน อ.ก.พ.กระทรวงทราบ เพื่อติดตามเร่งรัดการสอบสวน
ตอบ 270 วัน

78.สิทธิของผู้อุทธรณ์ มีอะไรบ้าง
ตอบ 1)ขอคัดรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวน
2)ขอคัดค้านอนุกรรมการผู้พิจารณาอุทธรณ์เสร็จสิ้น
3)ขอถอนอุทธรณ์ก่อนการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์เสร็จสิ้น

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:49:07

#48
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

หัวข้อ :แนวข้อสอบวิชา เอกคอมพิวเตอร์ค่ะ 19/01/2009 , 16:01 ข้อสอบ คอมพิวเตอร์
คำสั่ง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด แล้วกากบาทลงในกระดาษคำตอบ
1. ข้อใดไม่ใช่ ขั้นตอนหลักในการทำงานของคอมพิวเตอร์
ก. ประมวลผล ข. เก็บข้อมูล
ค. รับข้อมูล ง. แสดงผลลัพธ์
จ. นำข้อมูลเข้า (คนที่จะนำข้อมูลเข้าได้ก็คือ User ค่ะ)
2. หน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุดในระบบคอมพิวเตอร์เรียกว่า
ก. บิต ( 1 กับ 0) ข. ไบต์
ค. ฟิลด์ ง. เร็คคอร์ด
จ. ไฟล์
3. ข้อมูลเมื่อผ่านการประมวลผลแล้ว จะได้อะไร
ก. Document ข. Report
ค. Information ง. Output
จ. Database
4. สัญญาณในคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณชนิดใด
ก. อนาล็อก ข. ดิจิตอล
ค. ไฮบริค ง. ไฟฟ้า
จ. อิเล็กทรอนิกส์
5. สิ่งใดที่หุ่นยนต์ไม่สามารถทำได้
ก. การเปิดกล่องระเบิด ข. การเลือกผลไม้
ค. การก่อการร้าย ง. การปอกเลือกไข่ต้ม
จ. การเก็บกู้ระเบิด
6. IP Address คือ
ก. หมายเลยประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่าย
ข. โพรโทคอลที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ค. หมายเลขประจำของเครื่องเซิร์ฟเวอร์
ง. ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
จ. ถูกทุกข้อ
7. ข้อใดกล่าวถึง Protocol ได้ถูกต้อง
ก. การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
ข. การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกล
ค. การบริหารวารสารและข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต
ง. เครื่องมือที่ช่วยในการสืบค้นข้อมูลในรูปแบบเอกสาร
จ. ภาษาการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบอินเทอร์เน็ต
8. ส่วนประกอบใดของโปรแกรม Internet Explorer ที่ทำหน้าที่แสดงที่อยู่ของเว็ปไซด์
ก. แถบชื่อ ข. แถบสื่อสาร
ค. แถบสถานะ ง. พื้นที่แสดงเว็บเพจ
จ. แถบที่อยู่ของเว็บไซต์
9. [email protected] ข้อความ “s1555036” หมายถึงข้อใด
ก. Domain Name ข. Password
ค. Sub Domain ง. Username
จ. ISP
10. ไฟล์ที่ถูกบีบอัดด้วยโปรแกรม WinZip จะมีส่วนขยายหรือนามสกุลไฟล์ตามข้อใด
ก. .doc ข. .zip
ค. .com ง. .txt
จ. .exe
11. ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะไม่จำกัดผู้ใช้ ปัญหาดังกล่าวคือ
ก. อาจมีผู้บุกรุก เข้าทำลายระบบคอมพิวเตอร์ ข. ความปลอดภัยของข้อมูล
ค. ลิขสิทธิ์ ง. ไวรัสคอมพิวเตอร์ทำลายข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
12. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ของการประมวลผลแบบระบบฐานข้อมูล
ก. หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูล ข. ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลลงได้
ค. ข้อมูลไม่สูญหายเนื่องจากถูกเก็บไว้หลายๆ ที่ ง. ประหยัดอุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูล
จ. กำหนดระบบความปลอดภัยของข้อมูลได้
13. ข้อใดจัดเป็นโปรแกรม DBMS
ก. โปรแกรมภาษาโคบอล ข. โปรแกรมภาษาปาสคาล
ค. โปรแกรมภาษาเบสิค ง. โปรแกรมภาษาซี
จ.. โปรแกรม SQL
14. รายละเอียดข้อมูลที่แสดงถึงคุณสมบัติของเอ็นติตี้ คือ
ก. Attribute ข. Relationship
ค. Database ง. Field
จ. File
15. กรณีที่กำหนดว่า “นักศึกษาแต่ละคนสามารถลงทะเบียนได้หลายวิชา ในขณะที่แต่ละวิชานักศึกษาสามารถเลือกเรียนได้หลายคน ” ความสัมพันธ์ระหว่างรายวิชาและนักศึกษาเป็นความสัมพันธ์แบบใด
ก. แบบหนึ่งต่อกลุ่ม ข. แบบกลุ่มต่อกลุ่ม
ค. แบบกลุ่มต่อหนึ่ง ง. แบบหนึ่งต่อหนึ่ง
จ. ถูกทุกข้อ
16. “ความสัมพันธ์” ที่กล่าวถึงในข้อ 15 หมายถึง
ก. ความสัมพันธ์ระหว่างเอททริบิวต์ ข. ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลด์
ค. ความสัมพันธ์ระหว่างเร็คคอร์ด ง. ความสัมพันธ์ระหว่างเอ็นติตี้
จ. ความสัมพันธ์ระหว่างฐานข้อมูล
17. ชนิดความสัมพันธ์ใดต่อไปนี้ในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. 1 : 1 ข. 1 : m ค. M : 1 ง. M : n จ. 1: n
18. ถ้าจะกำหนดความสัมพันธ์ข้อมูลของร้านอาหารแห่งหนึ่งระหว่างรายการอาหารกับลูกค้า ควรจะกำหนดความสัมพันธ์นรูปแบบใด
ก. One to One ข. One to Many
ค. Many to Many ง. Many to One
จ. ถูกทุกข้อ
19. ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล เช่น กำหนดการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละคน ตรงกับบุคคลต่อไปนี้
ก. Programmers ข. DBA
ค. DBMS ง. Computer Analysis
จ. Data Entry
20. ข้อใด ไม่ใช่ ผลเสียของการทำงานด้วยระบบไฟล์
ก. เปลืองเนื้อที่ในการจัดเก็บ ข. เขียนโปรแกรมเพื่อจัดการกับข้อมูลยาก
ค. เกิดความขัดแย้งของข้อมูล ง. เกิดความซ้ำซ้อนของข้อมูล
จ. ผิดทุกข้อ
21. โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล (DBMS) มีหน้าที่อย่างไร
ก. ดูแลรักษาข้อมูล ข. ติดต่อกับตัวจัดการระบบแฟ้มข้อมูล
ค. ควบคุมภาวการณ์ใช้ข้อมูลพร้อมกัน ง. จัดการการเข้าถึงข้อมูลและไฟล์ข้อมูล
จ. ถูกทุกข้อ
22. ผู้ที่ทำหน้าที่บริหารฐานข้อมูล จะทำหน้าที่คล้ายคลึงกับใคร
ก. เจ้าหน้าที่เขียนโปรแกรม ข. ผู้ใช้
ค. หัวหน้าฝ่ายคอมพิวเตอร์ ง. นักวิเคราะห์ระบบ
จ. นักออกแบบระบบ
23. ข้อใดต่อไปนี้ควรกระทำเป็นอันดับแรกในการออกแบบฐานข้อมูล
ก. รวบรวมข้อมูลและความต้องการของผู้ใช้ ข. กำหนดรูปแบบฟิลด์และไฟล์
ค. ทำความเข้าใจกับข้อมูล ง. ออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างไฟล์
จ. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
24. ใน SQL ต่อจากคำสั่ง SELECT ต้องเป็นชื่อของอะไร
ก. ชื่อ Field ข. ชื่อ Table
ค. ชื่อ Table หรือชื่อ Query ง. ชื่อ Field หรือชื่อ Query
ง. ถูกทุกข้อ
5. ใน SQL ต่อจากคำสั่ง FROM ต้องเป็น
ก. ชื่อ Field ข. ชื่อ Table
ค. ชื่อ Table หรือชื่อ Query ง. ชื่อ Field หรือชื่อ Query
จ. ถูกทุกข้อ
26. Data type ชนิดไหน ที่เหมาะสำหรับใช้กับข้อมูลที่เป็นบาทและสตางค์
ก. Number ข. Text
ค. Currency ง. Memo
จ. ถูกทุกข้อ
27 ข้อใดไม่ใช่จุดประสงค์หลักของการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
ก. เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตที่ได้คุณภาพ
ข.. เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบการทำงานที่พึงประสงค์และสอดคล้องกับองค์กร
ค. เพื่อให้ได้มาซึ่งกฎระเบียบกฎเกณฑ์การปฏิบัติงานในระบบการทำงาน
ง. เพื่อให้ได้มาซึ่งซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ เครื่องมือปฏิบัติงานและบุคลากรที่เหมาะสมกับองค์กร
จ. ข้อ ข และ ค. ถูกต้อง

28. ข้อใดเป็นสิ่งที่คอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยในการระบบสารสนเทศ มากที่สุด
ก. เป็นเครื่องมือประมวลผลของระบบสารสนเทศ
ข. เป็นเครื่องมือจัดสร้างโปรแกรมของระบบสารสนเทศ
ค. เป็นเครื่องมือสำหรับปฏิบัติงานให้ได้สารสนเทศ
ง. เป็นเครื่องมือช่วยตัดสินใจของระบบสารสนเทศ
จ. เป็นเครื่องมือช่วยประสานงานในระบบสารสนเทศ
29. ระบบสารสนเทศมีความสำคัญอย่างไรต่อองค์กร มากที่สุด
ก. เป็นระบบที่สนับสนุนการบริหารงานและการดำเนินงานขององค์กร
ข. เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความเชื่อถือให้กับองค์กร
ค. เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้แก่องค์กร
ง. เป็นระบบที่ช่วยในการเพิ่มกำไร
จ. ไม่มีข้อใดถูก
30. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของนักวิเคราะห์ระบบ
ก. รวบรวมข้อมูล ข. กำหนดความต้องการ
ค. ศึกษาความเป็นไปได้ ง. ออกแบบสารสนเทศ
ง. ออกแบบผลลัพธ์
31. นักพัฒนาระบบในความหมายของการวิเคราะห์และออกแบบระบบคือใคร
ก. Programmer ข. System Analyst ค. Application Analyst ง. Data Entry
จ. ถูกทุกข้อ
2. บทบาทของนักวิเคราะห์ระบบคือข้อใด
ก. เป็นผู้บริหารระบบ ข. เป็นผู้ประสานงานระหว่างระบบกับผู้ใช้
ค. เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้ใช้กับผู้จัดการ ง. เป็นผู้เขียนโปรแกรม
จ. เป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้ใช้กับนักพัฒนาระบบ
33. คุณสมบัติของนักวิเคราะห์ระบบ คือข้อใด
ก. เป็นผู้พูดที่ดีและมีมนุษยสัมพันธ์ ข. มีความรู้เรื่องระบบสารสนเทศเป็นอย่างดี
ค. มีความสามารถในการเขียนรายงาน ง. สามารถแก้ปัญหาและรู้ระบบการทำงานเป็นอย่างดี
จ. ทุกข้อที่กล่าวมา
34. ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องคำนึง คืออะไร
ก. ความต้องการของผู้อำนวยการ ข. ความต้องการของผู้ใช้
ค. ความต้องการของผู้บริหาร ง. ความต้องการพัฒนาองค์กร
จ. ความต้องการของผู้ทำงาน
35. จากข้อต่อไปนี้ ข้อใดเป็นข้อดีในการใช้ฐานข้อมูลร่วมกันมากที่สุด
ก. ลดความขัดแข้งของข้อมูลและลอดความซ้ำซ้อนในการเก็บข้อมูล
ข. เพิ่มการออกแบบส่วนงานและโครงสร้างการควบคุมในตัว
ค. ฐานข้อมูลมีคุณสมบัติเป็นสารสนเทศที่ดี
ง. รวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้ง่าย
36. ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ข้อใดเป็นจุดประสงค์ในการใช้แผนภาพ Entity Relationship Diagram (ERD)
ก. วิเคราะห์การทำงานของโปรแกรม
ข. วิเคราะห์กระแสการไหลของข้อมูล
ค. วิเคราะห์และออกแบบองค์ประกอบของโปรแกรม
ง. วิเคราะห์และออกแบบภาพรวมของข้อมูลในฐานข้อมูล
จ. วิเคราะห์และออกแบบภาพรวมของรายงานที่จะได้จากระบบ
37. แหล่งข้อมูลใดมีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
ก. เอกสารและรายงาน ข. ผู้บริหาร
ค. ผู้ใช้ ง. โครงการวิเคราะห์และออกแบบระบบเดิม
จ. ทุก ๆ แหล่งมีความสำคัญ
38. ต่อไปนี้ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบัติที่พึงประสงค์ของแบบจำลองหรือโมเดล
ก. ง่ายต่อการทำความเข้าใจ กว่าการศึกษาระบบจริงอย่างชัดเจน
ข. ง่ายในการนำไปใช้
ค. ให้ข้อมูลของระบบอย่างละเอียดสมบูรณ์ทุกอย่าง
ง. ประหยัดกว่าการทำระบบจริง
จ. ให้เห็นระบบคร่าว ๆ ก่อนลงมือทำระบบจริง
39. ข้อใดเป็นความหมายของข้อมูลในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
ก. ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่สามารถเก็บรวบรวมได้ ข. ข้อเท็จจริงต่างๆ ของสิ่งที่เราสนใจ
ค. ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ง. ข้อมูลผลกำไรขาดทุน
จ. ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์และข้อมูลวิธีการทำงาน
40. ข้อใดควรกระทำเป็นอันดับแรกในการพัฒนาระบบโดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์และออกแบบระบบ
ก. ออกแบบรายงาน ข. รวมรวมข้อมูล
ค. วิเคราะห์ระบบ ง. กำหนดวิธีและขั้นตอนการทำงาน
จ. ควรทำไปพร้อม ๆ กัน
41. “แสดงถึงขอบเขตของระบบทั้งหมดที่ทำการศึกษา โดยจะแสดงให้เห็นว่าอะไรอยู่ที่ไหน ในหรือนอกระบบ” อความข้างต้นหมายถึงอะไร
ก. Context Diagra ข. Level – 0
ค. Level – 1 ง. Level – 2
จ. Level – 3
42. DFD( Data Flow Diagram) ในข้อใด มีรายละเอียดในการทำงานมากที่สุด
ก. Context Diagram ข. Level – 0
ค. Level – 1 ง. Level – 2
จ. Level – 3
43. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ DFD
ก. แผนภาพระดับ Context Diagram มีเพียงโปรเซสเดียว
ข. แผนภาพระดับที่ 1 เรียกว่า Context Diagram
ค. แผนภาพระดับที่ขยายการทำงานของ Context Diagram เรียกว่า DFD Level – 0
ง. Sink / Source ตัวเดียวกันใน Context Diagram ปรากฏ ได้หลายแห่ง
จ. Context Diagram จะอธิบายการทำงานได้ละเอียดที่สุด
44. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับ DFD
ก. กระแสข้อมูลย่อมไม่ไหลจากโปรเซสไปยังโปรเซส
ข. กระแสข้อมูลไหลจากโปรเซสไปยังแฟ้มข้อมูล
ค. กระแสข้อมูลไหลจากโปรเซสไปยัง Sinks
ง. กระแสข้อมูลไหลจาก Source ไปยังโปรเซส
จ. กระแสข้อมูลไหลจากโปรเซสไปยัง Source
45. ข้อความต่อไปนี้ ข้อใด ไม่ถูกต้อง
ก. 1.333... เป็นจำนวนตรรกยะ ข. 1.232323... เป็นจำนวนตรรกยะ
ค. เป็นจำนวนเต็ม ง. เป็นจำนวนจริง
จ. เป็นจำนวนตรรกยะ
46. จำนวนในข้อใดเป็นจำนวนตรรกยะทั้งหมด
ก. 1 , 0.01 , 1.111... ข. 1 , 1.333... , 2.131131113...
ค. 2.5 , ¶ , ง. 0.5 , , 1.262626...
จ. 0, 1.2411111..,-4
47. จำนวน 249 เขียนเป็นเลขโรมันได้ตรงกับข้อใด
ก. CCXCIV ข. CCDXXXXVI
ค. MVIXDIIII ง. CCCXVI
จ. CCXLIX
48. จำนวน 24,380,000 มีค่าเท่าจำนวนในข้อใด
ก. 2.438 x 105 ข. 2.438 x 106
ค. 2.438 x 107 ง. 2.438 x 108
จ. 24.38 x 109
49. จำนวน 0.000435 มีค่าเท่ากับจำนวนในข้อใด
ก. 4.35 x 10-4 ข. 4.35 x 10-5
ค. 4.35 x 10-6 ง. 4.35 x 10-7
จ. 4.35 x 10-8
50. มีค่าเท่ากับจำนวนในข้อใด
ก. 1.5 x 10-5 ข. 1.5 x 10-6
ค. 1.5 x 10-7 ง. 1.5 x 10-8
จ. 1.5 x 10-9
51. (0.5 x 103) x (0.7 x 104) มีค่าเท่ากับจำนวนในข้อใด
ก. 3.5 x 100 ข. 3.5 x 101
ค. 3.5x 102 ง. 3.5 x 103
จ. 3.5 x 106
52. (1 x 25) + (1 x 23) + (1 x 22) มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (10110)2 ข. (101100)2
ค. (100110)2 ง. (101010)2
จ. (100101)2
53. (110101)2 มีค่าเท่ากับจำนวนในข้อใด
ก. 50 ข. 51 ค. 52 ง. 53 จ. 54
54. (2573)8 เขียนในรูปการกระจายได้ตรงกับข้อใด
ก. (2 x 83) + (5 x 82) + (7 x 8) + (3 x 10) ข. (2 x 83) + (5 x 82) + (7 x 8) + (3 x 80)
ค. (2 x 84) + (5 x 83) + (7 x 82) + (3 x 10) ง. (2 x 84) + (5 x 83) + (7 x 82) + (3 x 10)
จ. (2 x 81) + (5 x 82) + (7 x 83) + (3 x 14)
55. (14AB)16 เขียนในรูปการกระจายตรงกับจำนวนข้อใด
ก. (1 x 163) + (4 x 162) + (A x 161) + (B x 160) ข. (1 x 163) + (4 x 162) + (10 x 161) + (11 x 160)
ค. (1 x 163) + (4 x 162) + (10 x 161) + (11 x 0) ง. (1 x 164) + (4 x 163) + (10 x 162) + (11 x 161)
จ. (1 x 161) + (4 x 162) + (10 x 163) + (11 x 164)
56. จำนวนในข้อใดมีค่ามากที่สุด
ก. (100)8 ข. (1000)6
ค. (10000)4 ง. (100000)2
จ. (100000)4
57. (1101)2 + (10011)2 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (10000)2 ข. (100000)2
ค. (11000)2 ง. (110000)2
จ. (1100000)2
58. (431)5 + (243)5 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (1124)5 ข. (1134)5
ค. (1214)5 ง. (1224)5
จ. (1215)5
59. (231)4 - (33)4 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (123)4 ข. (132)4
ค. (212)4 ง. (213)4
จ. (121)4
60. (6666)7 + (1)7 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (1111)7 ข. (2000)7
ค. (1000)7 ง. (10000)7
จ. (100000)7
61. (1011)2 x (11)2 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (100000)2 ข. (100001)2
ค. (110001)2 ง. (111001)2
จ. (110101)2
2. (11010)2 ÷ (10)2 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (1011)2 ข. (1010)2 ค. (1101)2 ง. (1100)2 จ. (1001)2
63. (111010)2 ÷ (110)2 มีค่าตรงกับข้อใด
ก. (1000.110)2 ข. (1000.101)2
ค. (1001.110)2 ง. (1001.101)2
จ. (1001.001)2
64. ข้อใดกล่าวถึงคอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง
ก. สามารถคิดค้นวิธีการแก้ปัญหาได้ ข. ความเร็วในการคำนวณเร็วกว่ามนุษย์
ค. มีความสามารถในการจำสิ่งต่างๆ ได้ดีกว่ามนุษย์
ง. อุปกรณ์ที่สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมาก จ. ถูกทุกข้อ
65. ข้อใดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการวิเคราะห์งาน
ก. การทำความเข้าใจและกำหนดสิ่งที่ต้องการ ข. การพิจารณาข้อมูลนำเข้า
ค. การพิจารณารูปแบบของข้อมูลออก ง. การพัฒนาลำดับขั้นตอนประมวลผล
จ. การเขียนโปรแกรมของระบบ
66. ข้อใดกล่าวถึง Flowchart ได้ถูกต้องที่สุด
ก. ใช้ในการช่วยเขียนอธิบายขั้นตอนการประมวลผลได้ดีกว่าข้อความ
ข. การอธิบายการทำงานด้วย Flowchart ไม่สามารถอธิบายการทำงานได้ชัดเจน
ค. เป็นการอธิบายขั้นตอนการประมวลผลด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ ประกอบกัน
ง. จะขาดสัญลักษณ์การจัดสินใจในการเขียนผังงานไม่ได้
จ. สามารถเลือกใช้สัญลักษณ์ได้ตามสะดวกและความพอใจ
67. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นของผังงาน
ก. มีทิศทางเข้าและออกอย่างละ 1 ทิศทาง ข. ในแต่ละผังงานมีได้เพียง 1 สัญลักษณ์
ค. เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้บอกจุดเริ่มต้นของผังงาน ง. ทุกผังงานจะต้องประกอบด้วยจุดเริ่มต้น
จ. สัญลักษณ์ที่ใช้เป็นจุดเริ่มต้นจะใช้ สัญลักษณ์ เท่านั้น
68. ถ้าต้องการคำนวณหาจากสูตร X = Y2 + 5 จะเขียนออกมาได้ในรูปแบบใด
ก. ข. ค.
ง. จ.
69. ถ้าต้องการแสดงค่าคัวแปร MAX จะเขียนออกมาในลักษณะใดจึงถูกต้องที่สุด
ก. MAX ข. MAX ค. MAX
ง. MAX ง.
70. สัญลักษณ์ในการเขียนผังงาน สัญลักษณ์ใดที่ต้องมีคู่ของสัญลักษณ์เสมอ
ก. จุดเริ่มต้น ข. การแสดงออกทางจอภาพ ค. การตัดสินใจ
ง. จุดต่อระหว่างหน้า จ. การคำนวณ
71. ในโครงสร้างผังงานการเลือกทำ สัญลักษณ์ในการเขียนผังงานในข้อใดจะขาดไม่ได้
ก. การคำนวณ ข. การตัดสินใจ ค. การรับค่าข้อมูล
ง. การแสดงผล จ. การแสดงผลทางจอภาพ
72. ในโครงสร้างผังงาน การเลือกทำ การทำงานในข้อใดจะต้องทำเป็นอันดับแรก
ก. การคำนวณ ข. การตัดสินใจ ค. การรับค่าข้อมูล
ง. บอกจุดสิ้นสุดของผังงาน จ. ถูกทุกข้อ
73. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับการทำงานของโครงสร้างผังงานการเลือกทำ หลังจากการตรวจสอบเงื่อนไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก. จะทำขั้นตอนการทำงาน 2 ทิศทางพร้อมกัน
ข. จะทำขั้นตอนการทำงานทั้งสองทิศทาง แต่จะทำครั้งละ 1 ทิศทาง ไม่พร้อมกัน
ค. จะเลือกทำขั้นตอนการทำงานเพียงทิศทางใดทิศทางหนึ่งตามเงื่อนไขเท่านั้น
ง. ไม่มีข้อใดถูก
จ. ถูกทุกข้อ
74. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงสร้างผังงานการทำซ้ำแบบ Do While
ก. ทำการตรวจสอบเงื่อนไขที่ใช้พิจารณาในการทำซ้ำเป็นอันดับแรก
ข. ทำขั้นตอนที่ต้องทำซ้ำเป็นอันดับแรก
ค. ถ้าผลการพิจารณาเงื่อนไขออกมาเป็นจริง จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำซ้ำ
ง. ถ้าผลการพิจารณาเงื่อนไขออกมาเป็นเท็จ จะออกจากขั้นตอนการทำซ้ำ
จ. ถูกทุกข้อ
75. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโครงสร้างผังงานการทำซ้ำแบบ Do Until
ก. ถ้าผลการพิจารณาเงื่อนไขออกมาเป็นเท็จ จะเข้าสู่ขั้นตอนการทำซ้ำ
ข. ถ้าผลการพิจารณาเงื่อนไขออกเป็นจริง จะออกจากขั้นตอนการทำซ้ำ
ค. จะทำขั้นตอนการทำงานที่ต้องทำซ้ำเป็นอันดับแรก
ง. ทำการตรวจสอบเงื่อนไขที่ใช้พิจารณาในการทำซ้ำเป็นอันดับแรก
จ. ไม่มีข้อใดถูก
76. “ข้อมูลตัวหนึ่งสามารถทำให้เกิดข้อมูลอีกชุดหนึ่งได้” คำดังกล่าวนี้เป็นความหมายของรูปแบบความสัมพันธ์ในข้อใด
ก. One to One ข. One to Many ค. Many to Many
ง. Many to One ง. ถูกทุกข้อ
77. ถ้าจะกำหนดความสัมพันธ์ของไฟล์ในระบบงานบุคลากร ระหว่างข้าราชการกับอัตราเงินเดือน ควรจะกำหนดความสัมพันธ์แบบใด
ก. หนึ่งต่อหนึ่ง ข. หนึ่งต่อกลุ่ม ค. กลุ่มต่อกลุ่ม
ง. กลุ่มต่อหนึ่ง ง. ข้อ ก. และ ข ถูก
78. ข้อใดต่อไปนี้ควรกระทำเป็นอันดับแรกในการออกแบบข้อมูล
ก. รวบรวมข้อมูลและความต้องการของผู้ใช้ ข. กำหนดรูปแบบฟิลด์และไฟล์
ค. ทำความเข้าใจกับข้อมูล ง. ออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างไฟล์
จ. เขียนโปรแกรม
79. ความไม่เป็นอิสระของข้อมูล หมายถึง ข้อความในข้อใด
ก. ข้อมูลที่ไม่สามารถนิยามความหมายได้ ข. ข้อมูลที่ผูกพันกับการจัดเก็บและการเรียกใช้
ค. ข้อมูลที่ถ้าจะใช้ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ง. ข้อมูลที่เกิดความขัดแย้งในตัวเอง
จ. ข้อมูลที่อยู่ไม่ระบุข้อมูลอื่นได้อีก
80. สื่อข้อมูลประเภทใดต่อไปนี้ ไม่สามารถใช้กับการจัดการการไฟล์แบบ Direct Access File
ก. เทปแม่เหล็ก ข. ฟล็อปปี้ดิสก์ ค. ฮาร์ดดิสก์
ง. ซีดี-รอม จ. แฟลชไดร์ฟ
81. ผู้ทำหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล เช่น กำหนดการเข้าถึงข้อมูลแต่ละคน เป็นหน้าที่ของบุคคลใด
ก. DBMS ข. DBA ค. ผู้เขียนโปรแกรม
ง. ผู้บริหารศูนย์คอมพิวเตอร์ ง. โปรแกรม
82. DBMS มีหน้าที่อย่างไร
ก. เป็นบุคคลควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล ข. เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่บริหารศูนย์ข้อมูล
ค. เป็นซอฟท์แวร์ที่ใช้จัดการฐานข้อมูล จ. เป็นบุคคลที่ป้อนข้อมูลลงฐานข้อมูล
จ. เป็นซอฟท์แวร์ที่ใช้จัดระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
83. ข้อใดเป็นการทำงานที่ต้องมี CPU มากกว่า 1 ตัว
ก. Multi Programming ข. Multi Processing ค. Centralize Data Processing
ง. Multi Media ง. ถูกทุกข้อ
84. เครือข่ายระดับต่อไปนี้ สามารถติดต่อส่งข้อมูลระหว่างเครื่องได้มากที่สุด
ก. เครือข่าย MAN ข. เครือข่าย WAN
ค. เครือข่าย LAN ง. เครือข่าย แบบ Star
จ. ทุก ๆ เครือข่ายสามารถส่งข้อมูลได้ไกลเหมือนๆ กัน ซึ่งอยู่ที่สายสัญญาณ
85. ข้อใดกล่าวถึงการทำงานแบบ Multiuser
ก. สามารถเปิดใช้คอมพิวเตอร์ได้ทีละหลายๆ เครื่อง
ข. สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ทีละหลายๆ โปรแกรม
ค. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ทีละหลายๆ งาน
ง. สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันพร้อมๆ กัน และใช้โปรแกรมได้ทีละหลายๆ โปรแกรม
จ. หนึ่งคนสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้หลายเครื่อง
6. ข้อใดเป็นความสามารถของคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Multiprocessing
ก. สามารถเปิดใช้คอมพิวเตอร์ได้ทีละหลายๆ เครื่อง
ข. สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ทีละหลายๆ โปรแกรม ค. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ทีละหลายๆ งาน
ง. สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันพร้อมๆ กัน และใช้โปรแกรมได้ทีละหลายๆ โปรแกรม
จ. หนึ่งคนสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้หลายเครื่อง
87. ระบบเครือข่ายประเภทใดในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากที่สุด
ก. LAN ข. WAN ค. MAN
ง. SAN จ. Ring
88. Wireless LAN หมายถึงข้อใด
ก. เครือข่าย LAN ที่ใช้สาย UTP ในการเชื่อมต่อ
ข. เครือข่าย LAN ที่ใช้สาย Coxcial ในการเชื่อมต่อ
ค. เครือข่าย LAN ที่ใช้สาย Fiber Optic ในการเชื่อมต่อ
ง. เครือข่ายที่ไม่ใช้สายในการเชื่อมต่อแต่ใช้คลื่นวิทยุแทน
จ. ทุกข้อที่กล่าวมาเป็นความหมายของ Wireless LAN ทั้งหมด
89. สิ่งใดต่อไปนี้มีความจำเป็นต้องใช้ในการต่อเชื่อมเครือข่ายแบบ BUS น้อยที่สุด
ก. LAN Card ข. Network Operating System ค. HUB
ง. Topology จ. ข้อ ข. และ ง. ถูก
90. อุปกรณ์ในข้อใดทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากสัญญานอนาลอคเป็นสัญญาณดิจิตอลหรือสัญญาณ
ดิจิตอลเป็นสัญญาณอนาล๊อค
ก. User Card ข. LAN Card
ค. Network Interface Card ง. Modemจ. ข้อ ข. และ ค. ถูก
91. สายสัญญาณใดมีความสามารถในการส่งข้อมูลเร็วที่สุด
ก. Coaxial Cable ข. Shielded Twisted Pair Cable
ค. Unshielded Twisted Pair Cable ง. Fiber Optic Cable
จ. Witless LAN
92. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมเครือข่ายสองระบบเข้าด้วยกัน
ก. HUB ข. Connector ค. Router
ง. Concentrator จ. Switch
93. HUB หมายถึงข้อใด
ก. เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต่อหัวเข้ากับสาย
ข. อุปกรณ์ที่ใช้ปิดสัญญาณหัวท้ายเครือข่ายเพื่อป้องกันสัญญาณรั่ว
ค. แผงวงจรที่เสียบกับเครื่องเพื่อเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย
ง. อุปกรณ์ศูนย์กลางของสายส่งสัญญาณรับทางเดียวออกหลายทาง หรือรับหลายทางออกทางเดียว
จ. อุปกรณ์ที่ใช้รับแล้วรวบรวมสัญญาณ
94. ในการเชื่อมต่อเครือข่ายมาตรฐาน Ethernet มาตรฐานใดที่ต่อใช้หัว RJ-45
ก. 10 Base 2 ข. 10 Base 3 ค. 10 Base 5
ง. 10 Base T จ. 10 Base 8
95. Repeater: รีพีทเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่อะไร
ก. ช่วยให้ระบบต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้
ข. ช่วยให้ระบบมีโปรโตคอลต่างกัน สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกัน

ค. ช่วยให้ระบบสามารถยืดระยะทางไปได้ไกลกว่าเดิม
ง. เป็นอุปกรณ์ที่ดักสัญญาณรบกวนภายในเครือข่าย
จ. ไม่มีข้อใดถูก
96. การส่งข้อมูลแบบใดที่สามารถส่งข้อมูลได้หลายช่องทาง
ก. Baseband ข. Broadband ค. Broadcast
ง. Ethernet จ. Token ring
97. องค์ประกอบพื้นฐานของการสื่อสารข้อมูลประกอบด้วย
ก. ผู้รับ – ผู้ส่ง ข. โปรโตคอล ค. สื่อกลาง
ง. ไม่มีข้อใดถูก จ. ถูกทุกข้อ
98. ข้อใดกล่าวถึง Electronic-mail ได้ชัดเจนที่สุด
ก. การขนถ่ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง
ข. การรับส่งข้อความผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ค. โปรแกรมสำหรับเปิดอ่านข่าวสารในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ง. การพูดคุยกันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
จ. โปรแกรมที่เปิดเว็บไซต์ที่ให้บริการ
99. การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึงข้อใด
ก. การขนถ่ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งในอินเตอร์เน็ต
ข. การรับส่งข้อความผ่านอินเตอร์เน็ต
ค. การซื้อขายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต
ง. การทำธุรกรรมผ่านทางระบบเครือข่าย
จ. ถูกทุกข้อ
100. ข้อใด มิใช่ วิธีการป้องกันปัญหาความปลอดภัยในการใช้อินเตอร์เน็ต
ก. โปรแกรมจำกัดข้อมูล ข. รหัสผ่าน
ค. ระบบเครือข่าย ง. โปรแกรมป้องกันไวรัส
จ. การสร้างไฟล์วอลล์

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:49:49

#49
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ใคร ได้ อะ ไรดีๆๆ มีคาถา ไร ก้มาบอก มั้งนะคะ
ก็มาบอกกันมั้งนะคะ

[email protected]

กาก้า

13 มิ.ย. 2555 13:51:20

#50
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ตอบคุณ pheung ค่ะ เจอกันค่ะ

tukky

13 มิ.ย. 2555 16:12:59

#51
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

เจ๋งค่ะ คุณกาก้า ขอบคุณหลายๆๆๆ เด้อค้าา

tongtanoi

13 มิ.ย. 2555 20:34:51

#52
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอบคุณหลายๆคะ คุณกาก้าได้บุญอย่างแรงคะ

kam

14 มิ.ย. 2555 08:24:50

#53
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอบคุณมากมายเลยนะคะ

การะเกด

14 มิ.ย. 2555 09:14:14

#54
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอบคุณนะคะ คุณกาก้า

aun101

14 มิ.ย. 2555 12:37:33

#55
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ขอถามคุณ กาก้า หน่อยครับ หลักการจำแนกประเภทรายจ่าย
ตามงบประมาณ หาอ่านได้จากระเบียบหรือพ.ร.บ.ใดครับอยากได้เก็บไว้ทั้งฉบับครับ ขอบคุณสำหรับทุกสรุปเนื้อหาครับคงได้ใช้ประโยชน์วันอาทิตย์17มิ.ย.55 แน่นอน

พีท

14 มิ.ย. 2555 22:37:30

#56
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

เราไม่ได้อ่านหนังสือเลย ทำอย่างไรดี เพื่อนช่วย ๆ แนะนำหน่อย หรึออ่านแต่สรุป จากนั้นก็แล้วแต่กรรมแต่แวรแล้วกันเนอะ

O La La

15 มิ.ย. 2555 07:05:56

#57
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ยากไปสอบด้วยจัง..

JM.

15 มิ.ย. 2555 07:42:42

#58
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

คุณ JM ไม่ได้สมัครหรอคะ

kam

15 มิ.ย. 2555 08:29:52

#59
รูปไม่เข้าระบบ
 
Re : ใครไปสอบกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์บ้างครับ

ไปสอยกันเยอะ เหมือนกัน เน้อ

tukky

15 มิ.ย. 2555 14:30:04

#60
1 2 3 4 5


แสดงความคิดเห็น...